กระทรวงการคลัง ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ประกาศเปลี่ยนสถานะบริษัทเซเว่นแอนด์ไอ โฮลดิ้ง (Seven & i Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของร้านสะดวกซื้อแบรนด์เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven) ที่โด่งดัง และมีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น จากเดิมที่อยู่ในสถานะไม่เป็นธุรกิจหลักสำคัญ หรือ Non-core Business ให้เป็นมีสถานะเป็นธุรกิจหลักสำคัญ หรือ Core Business ภายใต้กฎหมายการค้าระหว่างประเทศ และกฎหมายการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ หัวใจสำคัญของสถานะดังกล่าวจะทำให้บริษัทต่างชาติที่เสนอซื้อหุ้นของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศมีสัดส่วนตั้งแต่ 10% ขึ้นไปนั้น จะต้องทำการแจ้งต่อรัฐบาลญี่ปุ่นล่วงหน้าเสมอ
การเปลี่ยนแปลงสถานะดังกล่าวมีขึ้นหลังจากบริษัทเซเว่นแอนด์ไอ โฮลดิ้ง ยื่นขอต่อกระทรวงการคลัง ญี่ปุ่น เมื่อเดือนสิงหาคมผ่านไป และได้รับการอนุมัติปรับเปลี่ยนสถานะตามคำร้องขอ ส่งผลให้การเสนอซื้อกิจการเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้ง ของยักษ์เครือข่ายอาลีเมนเทชัน คุช-ทาร์ด จากประเทศแคนาดา จะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นจากปกติ ซึ่งตามปกติแล้ว บริษัทที่สนใจซื้อกิจการใดๆ ก็ตาม สามารถเสนอซื้อได้ทั้งอย่างเป็นมิตรด้วยการแจ้งโดยตรงไปยังบริษัทเป้าหมาย และทำการเจรจาบนผลประโยชน์ร่วมกัน หรือซื้อโดยไม่เป็นมิตรด้วยการกว้านซื้อหุ้นของบริษัทเป้าหมายในตลาดหลักทรัพย์ที่บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนอยู่ จนกระทั่งมีอำนาจและถือหุ้นในสัดส่วนมากพอที่จะครอบงำบริษัทเป้าหมายได้
เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ เปิดเผยต่อมาว่า การยื่นขอแจ้งเปลี่ยนสถานะดังกล่าวนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทอาลีเมนเทชัน คุช-ทาร์ด เสนอซื้อกิจการทั้งหมดแต่อย่างใด ความเคลื่อนไหวของฝ่ายยักษ์เครือข่ายร้านสะดวกซื้อแบรนด์แคนาดา พบว่า ฝ่ายบริหารยังคงเดินหน้ายื่นข้อเสนอเกี่ยวกับการพูดคุยราคาเสนอซื้อที่สูงขึ้นจากข้อเสนอเดิม
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 กันยายนผ่านมา อาลีเมนเทชั่น คุช-ทาร์ด กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกสะดวกซื้อจากประเทศแคนาดา เปิดเผยว่า รู้สึกผิดหวังต่อการที่บริษัท เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ให้บริการร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีแลฟเว่น (7-11) ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด ได้ปฏิเสธข้อเสนอกิจการมูลค่า 38,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.316 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม อาลีเมนเทชั่น คุช-ทาร์ด พร้อมที่จะยื่นข้อเสนอกิจการอย่างเป็นมิตรต่อไปกับเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ ด้วยความมั่นใจอย่างมาก
เนื่องจากการเสนอกิจการในครั้งนี้ อาลีเมนเทชั่น คุช-ทาร์ด มีเงินสดเกินพอในการซื้อกิจการทั้งหมดของเซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ นอกจากนี้ พร้อมที่จะทำงานร่วมกับ เซเว่น แอนด์ ไอ โฮลดิ้งส์ อย่างใกล้ชิด เพื่อหาช่องทางที่ดีที่สุดในการได้มาซึ่งการพิจารณาของหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันค้าปลีกในญี่ปุ่น ทำให้ไม่เป็นอุปสรรค หรือข้อจำกัดต่อไป