นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าวันนี้ (8 เม.ย. 68) ดีอีได้เสนอพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. โดยก่อนหน้านี้เคยเข้า ครม. ไปแล้ว และทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจสอบร่าง พ.ร.ก. อีกครั้ง ซึ่งเมื่อได้ตรวจสอบเสร็จแล้วได้แยกออกเป็น 2 ร่าง คือ พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ เทคโนโลยี 1 ร่าง และ พ.ร.ก.ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอีกร่าง ซึ่งดูแล้วถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะ ร่าง พ.ร.ก. ฉบับนี้ มีมาตรการหลายอย่างที่ควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล คือกำหนดผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ต่างประเทศ แต่มาทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเดิม พ.ร.ก. นี้ไม่ได้ควบคุมดูแล หลังจากที่มีการแก้ ก็มีการกำหนดคุณลักษณะของบริษัทประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ว่ามีคุณสมบัติอย่างไรแล้วจะมีมาตรฐานกำกับดูแลออกมา ทั้งนี้เพื่อป้องกันเงินที่ไหลออกทางสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ไม่มีทางควบคุม ถือเป็นการปิดช่องทางที่สำคัญ และตัดช่องทางการเงินของมิจฉาชีพ
ส่วน พ.ร.ก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยีที่เสนอไปก่อนหน้านี้นั้น เป็นอีกร่างหนึ่ง โดยหลักการเกี่ยวกับการมีส่วนรับผิดชอบของธนาคาร แพลตฟอร์มต่างๆ พร้อมย้ำจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาในวันนี้
โดยทั้งเงินปกติ และเงินดิจิทัลจะถูกระงับไว้ มีการกำหนดดูแลส่วนนี้ ส่วนบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลมีจำนวนเท่าใดนั้น ก็ต้องตรวจสอบกับทาง ก.ล.ต. ก่อน พร้อมระบุว่า หลังจากนี้ไม่ต้องให้กฤษฎีกาดูอีกครั้งแล้ว โดยหากผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม. ในวันนี้ก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป