ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 39,908 จุด +349 จุด หรือ +0.88% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,308 จุด +61 จุด หรือ +1.17% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 16,742 จุด +231 จุด หรือ +1.40% ส่งผลดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดเหนือระดับ 5,300 จุดเป็นครั้งแรกและครั้งประวัติศาสตร์
ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +2.16%, +1.85% และ +1.14% ตามลำดับ ในเดือนเมษายนผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดร่วง -5%, -4% และ -4% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2023 และยังปิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
สาเหตุจากตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปของผู้บริโภคในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าในเดือนมีนาคมและกุมภาพันธ์ที่เพิ่มขึ้น 0.4% นอกจากนี้ เงินเฟ้อในเดือนเมษายนดังกล่าวเพิ่มขึ้นไม่ถึงที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% สะท้อนถึงเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดต่ำลงในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกอ่อนค่าเป็นวันที่ 2 ถึง 0.4% ทำสถิติต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอายุ 10 ปี ลดลงเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง มาทำสถิติต่ำสุดในรอบมากกว่า 1 เดือน
ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ว่าส่วนตัวคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐปีนี้จะยัคงลดลงต่อเนื่องเหมือนในปี 2023 และแทบเป็นไปไม่ได้ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีก นอกจากนี้ รอประกาศตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคในคืนวันนี้
ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 71%
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ