กระทิงมา! ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกวันที่ 5 ติดต่อกัน ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 500 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,090 จุด +512 จุด หรือ +1.40% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,707 จุด +63 จุด หรือ +1.37% และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 14,733 จุด +200 จุด หรือ +1.38% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดทำสถิติสูงสุดเหนือ 37,000 จุดเป็นแรกและครั้งประวัติการณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ดัชนีหุ้นดังกล่าวมีจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 37,084.85 จุด เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2022 หรือในรอบ 11 เดือนผ่านมา

เช่นเดียวกันกับดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ขึ้นทำสถิติสูงสุดเหนือ 4,700 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนผ่านมา ระหว่างวันในรอบ 1 ปี 11 เดือน หรือตั้งแต่มกราคม ปี 2022 สอดรับกับดัชนีหุ้นนาสแดคปิดสูงสุดในรอบ 1 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่เมษายน ปี 2022 นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดขึ้นแดนบวกเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน

ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +0.2%, +0.2% และ +0.7% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดแดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน ส่งผลจะทำสถิติปิดรายสัปดาห์ยาวนานที่สุดในรอบ 4 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019

สาเหตุจากนักลงทุนมั่นใจเต็มที่ว่าสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดอย่างชัดเจนแล้ว หลังจากการกล่าวของประธานเฟดภายหลังสิ้นสุดการประชุมมีมติตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องในคืนผ่านมา นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า 2024

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคมอยู่ที่ 100% จากเดิมที่โอกาสไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 91% อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่ามีโอกาสอยู่ที่ 50% จากเดิมที่ 60% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยดังกล่าวครั้งแรกในต้นเดือนมีนาคมปี 2024