ดีดับเบิลยูเอส (DWS) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินแห่งหนึ่งเปิดเผยรายงานมีชื่อว่าความสามารถในการจ่ายที่อยู่อาศัยปี 2025 หรือ Housing Affordability Review 2025 พบว่าในภาพรวมของปี 2025 ภาระค่าเช่าที่พักอาศัยทั่วโลกทั้ง 80 เมืองทั่วโลก เพิ่มขึ้นเฉลี่ยแตะ 38% ของรายได้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าเกินกว่าระดับยั่งยืน หรือมีค่าใช้จ่ายด้านค่าเช่าแพงเกินศักยภาพรายได้ครัวเรือน
ผลสำรวจ พบว่า กรุงเทพมหานครที่ตกอยู่ในกลุ่มความสามารถต่ำที่สุดในการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ Low Affordability สำหรับที่พักอาศัยประเภทห้องชุดที่เป็นห้องมาตรฐานมี 2 ห้องนอนนั้น กรุงเทพมหานครรั้งท้ายสุดของทั้ง 80 เมืองทั่วโลกในแง่เป็นเมืองที่มีค่าเช่าเฉลี่ยสูงมากถึง 79% ของรายได้เฉลี่ยครัวเรือน นั่นหมายถึง กรุงเทพมหานครติดอันดับเมืองที่มีค่าเช่าที่อยู่อาศัยต่อรายได้ครัวเรือนแพงมากที่สุดในโลก ส่งผลไม่เพียงรั้งอันดับสุดท้ายของการจัดอันดับในกลุ่มความสามารถต่ำที่สุดในการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ Low Affordability แต่ยังรั้งท้ายสุดของทั้ง 3 กลุ่มจากทั้งหมด 80 เมืองทั่วโลก
ขณะที่เมืองซอลท์ เลค ซิตี้ (Salt Lake City) ในสหรัฐอเมริกา อยู่อันดับที่ 1 ของกลุ่มบนสุด และของทั้ง 80 เมืองทั่วโลก โดยมีสัดส่วนค่าเช่าต่อรายได้ครัวเรือนเพียงแค่ 20% หากมองเฉพาะในอาเซียน พบว่ากรุงกัวลาลัมเปอร์ มีสัดส่วนค่าเช่าต่อรายได้ครัวเรือนที่ 35% ส่งผลไม่เพียงอยู่ในกลุ่มบนสุด แต่เป็นอันดับใน 1 อาเซียนด้วย
นอกจากนี้ ในแง่รายได้ของครัวเรือนสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายเช่าที่อยู่อาศัยดังกล่าวแล้ว พบว่า กรุงเทพมหานครรั้งอันดับที่ 3 จากท้ายของกลุ่มความสามารถต่ำที่สุดในการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ Low Affordability โดยเป็นรองต่อจากกรุงโยฮันเนสเบิร์ก และกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ตามลำดับ ที่สำคัญในกลุ่มนี้ พบว่า ครัวเรือนชาวเวียดนามในกรุงฮานอยมีรายได้ของครัวเรือนสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายเช่าที่อยู่อาศัยดังกล่าวแล้ว มากกว่าครัวเรือนคนไทยในกรุงเทพมหานคร โดยอยู่อันดับที่ 16 เหนือกว่ากรุงเทพมหานครถึง 13 อันดับ
ในเกณท์เดียวกันนี้ กลับพบว่าแม้สิงคโปร์จะมีค่าเช่าที่พักอาศัยแพงติดอันดับโลกโดยอยู่ที่ 44% แต่ประชากรในสิงคโปร์มีรายได้ที่สูง เมื่อหักค่าใช้จ่ายเฉลี่ย หรือสุทธิแล้วอยู่ที่กว่า 8,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือกว่า 264,000 บาทต่อเดือน ต่างจากคนไทยในกรุงเทพมหานครที่ต้องแบกรับค่าครองชีพสูงแต่มีรายได้เฉลี่ยต่ำนั่นเอง
ในเกณท์สุดท้ายของการจัดที่เรียกว่า คะแนนรวมความสามารถในการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ Z-score ซึ่งเป็นช่วงคะแนนระหว่าง -3 ถึง +3 คะแนน พบว่า กรุงเทพมหานครได้คะแนนเกือบ -3 ตกอยู่อันดับที่ 80 ไม่เพียงส่งผลเป็นเมืองรั้งสุดท้ายของการจัดอันดับในกลุ่มความสามารถต่ำที่สุดในการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ Low Affordability แต่ยังรั้งท้ายสุดของทั้ง 3 กลุ่มจากทั้งหมด 80 เมืองทั่วโลก ในขณะที่ กรุงฮานอย เวียดนามอยู่อันดับที่ 66 ดีกว่าไทยถึง 14 อันดับ ส่วนสิงคโปร์ และมาเลเซีย อยู่ในอันดับที่ 10 และ 13 ตามลำดับ
ทั้งนี้ การสำรวจ 80 ตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองทั่วโลก ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มความสามารถสูงที่สุดในการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ High Affordability มี 27 เมือง กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มความสามารถปานกลางในการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ Average Affordability มี 27 เมือง และกลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มความสามารถต่ำที่สุดในการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย หรือ Low Affordability มี 26 เมือง
