กสิกรไทย คาดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ อาจแตะได้สุด 1,265 จุด จับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของไทย การเมืองในประเทศ 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย  เปิดเผยว่าดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงสั้น ๆ ต้นสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณว่าอาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในเร็ว ๆ นี้ ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากตัวเลขส่งออกเดือนก.ค. ของไทยที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยปัจจัยบวกดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนซ์ โรงไฟฟ้าและผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงในเวลาต่อมาตามแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังมีรายงานข่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งปลดผู้ว่าการเฟดท่านหนึ่งพ้นจากตำแหน่ง รวมถึงขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนสูงถึง 200% หากจีนจำกัดการส่งออกแม่เหล็กแร่ธาตุหายากไปยังสหรัฐฯ ประกอบกับนักลงทุนยังอยู่ในบรรยากาศระมัดระวังระหว่างรอติดตามประเด็นการเมืองในประเทศ ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงลึกในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมครม. ทั้งคณะ ส่งผลให้เกิดแรงเทขายหุ้นหลายกลุ่ม นำโดยกลุ่มพลังงาน ค้าปลีกและสื่อสาร

ในวันศุกร์ที่ 29 ส.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,236.61 จุด ลดลง 1.34% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 46,844.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.96% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.04% มาปิดที่ระดับ 248.86 จุด

สัปดาห์นี้  (1-5 ก.ย. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,225 และ 1,200 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,245 และ 1,265 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของไทย ประเด็นการเมืองในประเทศ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและการบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนส.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนส.ค. ของญี่ปุ่น จีน และยูโรโซน ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. (เบื้องต้น) ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนก.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 ของยูโรโซน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles