กสิกร มองหุ้นไทยสัปดาห์นี้พุ่งสุด 1,325 จุด หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาลงแตะจุดต่ำสุดใหม่ใน 3 ปี 7 เดือน

20
0
Share:

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า หุ้นไทย ร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคท่ามกลางความกังวลว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.. ของสหรัฐฯออกมาสูงกว่าตลาดคาดประกอบกับนักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นการเมืองในประเทศซึ่งปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นแรงเทขายทำกำไรในหุ้นหลายกลุ่มอุตสาหกรรมนำโดยไฟแนนซ์อสังหาริมทรัพย์และพลังงาน

หุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบในเวลาต่อมาก่อนจะทยอยปรับตัวลงอีกครั้งหลังการประชุมเฟด เนื่องจากเฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับนักลงทุนมีความระมัดระวังในการลงทุนระหว่างรอติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยหุ้นไทยแตะจุดต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 3 ปี 7 เดือนที่ 1,304.31 จุดในช่วงปลายสัปดาห์ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง (17 วันทำการ) อนึ่ง สัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มแบงก์ (มีแรงหนุนจากประเด็นกนง.มีมติคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบล่าสุด) และเทคโนโลยี (มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว) ปรับตัวขึ้นสวนทางหุ้นในกลุ่มอื่นๆ

ในวันศุกร์ที่ 14 มิ.. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,306.56 จุด ลดลง 1.96% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 41,458.19 ล้านบาท ลดลง 2.77% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 3.31% มาปิดที่ระดับ 355.91 จุด

สัปดาห์สัปดาห์นี้  (17-21 มิ..) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,300 และ 1,285 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,315 และ 1,325 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นการเมืองในประเทศและทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.. ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนมิ.. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนมิ.. ของยูโรโซน อังกฤษและญี่ปุ่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนมิ.. และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.. ของจีนอาทิผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยอดค้าปลีกและการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร