กูรูมองทองระยะสั้นยังมีสัญญาณบวก ลุ้นขึ้นแตะ 53,000 บาทอีกรอบ ทองคำโลกคาดแตะสุด 3,450 ดอลลาร์ ได้แรงหนุนทรัมป์ขู่เก็บภาษียุโรป

กูรูมองทองระยะสั้นยังมีสัญญาณบวก ลุ้นขึ้นแตะ 53,000 บาทอีกรอบ ทองคำ โลกคาดแตะสุด 3,450 ดอลลาร์ ได้แรงหนุนทรัมป์ขู่เก็บภาษียุโรป

น.ส.อารีรัตน์ มุราชัย นักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด (GCAP GOLD) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในระยะสั้นยังคงมีสัญญาณเชิงบวก แม้ว่าจะมีความผันผวนต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอให้มีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 50% ต่อสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป โดยเดิมกำหนดให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. แต่ล่าสุดมีการเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 9 ก.ค. พร้อมทั้งยังระบุให้บริษัท Apple Inc. จะต้องชำระภาษีศุลกากรในอัตรา 25% หรือมากกว่านั้น สำหรับ iPhone ที่ผลิตนอกสหรัฐฯ ซึ่งประเด็นด้านภาษีเหล่านี้จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ ที่ยังคงต้องจับตา โดยล่าสุดบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ในวอลสตรีทได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดตราสารหนี้ โดยเฉพาะตราสารหนี้ประเภท Junk Bond ซึ่งต้นทุนในการประกันความเสี่ยง (Credit Default Swap) ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์นี้อาจเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำอาจเผชิญแรงกดดันระยะสั้นจากปัจจัยเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข้อมูลจากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed Minutes), ตัวเลข GDP ไตรมาสล่าสุดซึ่งคาดว่าจะทรงตัว และดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 0.0% เป็น 0.1% หากข้อมูลออกมาตามคาด อาจกดดันราคาทองคำชั่วคราว

ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว จึงประเมินว่า ราคาทองคำในระยะสั้นยังคงมีแนวโน้มเป็นบวก โดยหากราคาทองคำในสัปดาห์นี้อ่อนตัวลงแต่ยังสามารถยืนเหนือระดับ 3,280 ดอลลาร์ หรือเทียบราคาทองคำไทย ประมาณ 50,800 บาท ก็ยังมีโอกาสเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้น โดยแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 3,395 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี หากราคาสามารถทะลุและยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อย่างมั่นคง จะถือเป็นการหลุดกรอบ Sideway ในกราฟรายสัปดาห์อย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นต่อไป และมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับขึ้นต่อ เพื่อทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 3,415 ดอลลาร์ และ 3,450 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยประมาณ 52,500-53,000 บาท

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles