แชลเลนเจอร์ เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส (Challenger, Gray & Christmas) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านแรงงานของสหรัฐ เปิดเผยว่าการเลิกจ้างในเดือน ก.พ. 2567 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ของปีอื่นๆ นับตั้งแต่ที่เกิดวิกฤตทางการเงินโลก โดยในเดือนก.พ. 2567 มีการเลิกจ้างรวม 84,638 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้น 3% จากเดือน ม.ค. 2567 และเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ของปีที่แล้ว นำโดยบริษัทเทคโนโลยีและการเงิน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานด้วยว่าเมื่อพิจารณาจากตัวเลขในอดีต จำนวนการเลิกจ้างดังกล่าวนับว่าย่ำแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ด้วยกันนับตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งขณะนั้นมีการประกาศปลดพนักงานรวมกัน 186,350 ตำแหน่ง ในช่วงเวลาที่วิกฤตทางการเงินที่เลวร้ายที่สุดดูเหมือนใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ก่อนที่ตลาดการเงินแตะระดับต่ำสุดในเดือนต่อมา จากนั้นเศรษฐกิจก็ขยายตัวต่อเนื่องยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนมี.ค. 2563 ส่วนปีนี้บริษัทต่างๆ มีการปรับลดตำแหน่งงานรวม 166,945 ตำแหน่งแล้ว ลดลง 7.6% เมื่อเทียบรายปี
โดยท่ามกลางการเลิกจ้างจำนวนมากที่เกิดขึ้นหลายระลอก ภาคเทคโนโลยีเลิกจ้างมากที่สุดในปีนี้ ด้วยการปลดพนักงานลง 28,218 ตำแหน่ง แม้จำนวนดังกล่าวจะลดลง 55% เมื่อเทียบรายปีก็ตาม ขณะที่การเลิกจ้างในหมู่บริษัทการเงินปรับตัวขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566
นอกจากนี้อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีแผนปรับลดตำแหน่งงานเป็นจำนวนมาก อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งเพิ่มขึ้น 1,754% เมื่อเทียบรายปี อุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1,059% และอุตสาหกรรมการศึกษา ซึ่งเพิ่มขึ้น 944%
อย่างไรก็ตาม จำนวนการเลิกจ้างดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าการว่างงานเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ และพนักงานสามารถหางานใหม่ได้