นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์และข้อมูลกองทุนรวมล่าสุด พบว่า ภาพรวมในขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวการเลิก 1 กองทุน ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา พบว่า บลจ. มีเครื่องมือในการบริหารสภาพคล่องที่เพียงพอ และมีการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการแยกหุ้นกู้ที่มีปัญหาออกมาต่างหาก (side pocket) การกำหนดสัดส่วนการไถ่ถอน (redemption gate)
สำหรับกองที่มีการไถ่ถอนมาก ตลอดถึงการเลิกกอง เพื่อรักษาประโยชน์ของผู้ถือหน่วยทุกรายอย่างเป็นธรรม โดย ก.ล.ต. ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และเน้นย้ำให้ บลจ. และตัวแทนขายสื่อสาร สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้ลงทุน
โดยก่อนหน้านี้ (16 ก.ค.) บลจ.แอสเซท พลัส ออกประกาศเลิกกองทุนเปิด แอสเซทพลัส ตราสารหนี้ เดลี่ พลัส (ASP-DPLUS) หลังจากผู้ถือหน่วยลงทุนเทขายกองทุน ASP-DPLUS อย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน เนื่องจากความกังวลหุ้นกู้เอกชนแห่งหนึ่ง ทำให้ในระหว่างวันที่ 15 – 16 กรกฎาคม 2567 มียอดการขายคืนหน่วยลงทุนสุทธิเป็นจำนวนเกินกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ซึ่งเข้าเงื่อนไขเลิกกองทุนที่กำหนดไว้ในโครงการจัดการกองทุน