ก.ล.ต. เปิดแผนยุทธศาสตร์ปี 2568-2570 มุ่งเดินหน้ายกระดับความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทย รอง รับเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ประธานกรรมการ ก.ล.ต. กล่าวว่า นอกจากการกำหนดแผนยุทธศาสตร์แล้ว การขับเคลื่อนแผน (implement) เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ก.ล.ต.ต้องมีความคล่องตัวในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างเท่าทันเหตุการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ทั้งการสร้างธรรมาภิบาลในตลาดทุนผ่านมาตรการต่าง ๆ ที่มีอย่างต่อเนื่อง การพัฒนากฎ กติกาให้เป็นมาตรฐาน สามารถตรวจสอบ ป้องกันและลดความเสียหายได้ เช่น การจัดทำเกณฑ์การจำนำหุ้นที่จะออกมาในเร็ว ๆ นี้ การดำเนินการด้าน Trust & Confidence ยังมีเป้าหมายสำคัญคือ ความยุติธรรม (justice) ต้องไม่ล่าช้า ปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ทำให้คดีที่คั่งค้างสามารถดําเนินการได้เร็วขึ้นจากปี 2566 ถึง 3 เท่า และเชื่อว่าอนาคตจะยังพัฒนาขึ้นอีก ผ่านการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้ทางกฎหมายที่จะเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือต่อตลาดทุนไทย

ศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับกระบวนการที่สังเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ เช่น การศึกษาแนวโน้มและนโยบายตลาดทุนของต่างประเทศ ความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล การทำวิจัยเชิงลึก และการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน รวมทั้งเพื่อให้ผู้ร่วมตลาด ตลอดจนผู้ลงทุนและประชาชน ได้เห็นทิศทางในการกำกับดูแลและกำหนดนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนในระยะ 3 ปีข้างหน้า ซึ่ง ก.ล.ต. ร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความสมดุลและสอดรับกับบริบทของประเทศ อันจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งเสริมความเชื่อมั่นและความเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศต่อไป สำหรับแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2568 – 2570 มีเป้าหมายหลัก 5 ด้าน ได้แก่ 1. ตลาดทุนได้รับความเชื่อมั่น (Trust & Confidence) 2. ตลาดทุนเป็นแรงขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Technology) 3. ตลาดทุนเป็นกลไกสู่ความยั่งยืน (Sustainable Capital Market) 4. ผู้ลงทุนมีสุขภาพทางการเงินที่ดี (Long-term Investment) 5.ศักยภาพในการดำเนินการตามพันธกิจ (SEC Excellence)

“เป้าหมายทั้ง 5 ด้าน เป็นเป้าหมายที่ยกต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมา เพราะมีความสอดคล้องกับพันธกิจของ ก.ล.ต. ทั้งด้านการกำกับดูแลและการพัฒนา แต่ในปีนี้มีการปรับน้ำหนักเป้าหมายในแต่ละด้านให้สมดุลกันมากขึ้น โดยเพิ่มน้ำหนัก Trust & Confidence เป็น 40% ส่วนที่เหลืออีก 4 ด้าน ให้น้ำหนักเท่ากันที่ 15% เพื่อให้แผนงานมีความต่อเนื่องและสอดรับเป้าหมายแต่ละด้านได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว

นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้มีการยกระดับระบบนิเวศและโครงสร้างพื้นฐานรองรับตลาดทุนดิจิทัลรวมทั้งส่งเสริมให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกสำคัญสู่ความยั่งยืนและเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ตลอดจนการยกระดับศักยภาพของ ก.ล.ต. ในการกำกับดูแลและการตรวจสอบ การใช้เทคโนโลยี ข้อมูลและนวัตกรรมในกระบวนการทำงาน รวมถึงการพัฒนาทักษะและความพร้อมของบุคลากรเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เกี่ยวข้องได้อย่างทันการณ์และมีประสิทธิภาพ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles