สถาบันนานาชาติเพื่อการพัฒนาการตัดการ หรือ International Institute for Management Development หรือ IMD สวิสเซอร์แลนด์ เปิดเผยรายงานผลการจัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศและเขตเศรษฐกิจประจำปี 2024 ซึ่งมีการจัดทั้งหมด 67 ประเทศ และเขตเศรษฐกิจทั่วโลก พบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 25 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน ซึ่งการจัดอันดับประจำปี 2024 นี้ ประเทศไทยมีอันดับสูงขึ้น 5 อันดับ จากเดิมในอันดับที่ 30 เมื่อปี 2023
สาเหตุที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน 2 ด้าน ที่ดีขึ้น ได้แก่ สมรรถนะหรือผลงานทางเศรษฐกิจ ได้คะแนน 64.3 คะแนน โดยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 ในเกณฑ์ดังกล่าว นับเป็นการปรับสูงขึ้นถึง 11 อันดับ จากเดิมเคยอยู่ในอันดับที่ 16 ในปี 2023 ผ่านมา เนื่องจากด้านการคลังของประเทศไทยมีสถานะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจากในอดีต ที่สำคัญ คือภาวะการจ้างงานอยู่ในอันดับ 3 และการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 23 อันดับมาอยู่ที่อันดับที่ 6 อย่างไรก็ตามอันดับในด้านการลงทุนจากต่างประเทศอยู่ที่อันดับ 24 ซึ่งลดลง 2 อันดับเทียบจากปีผ่านมา
สำหรับเกณฑ์ด้านประสิทธิภาพภาคธุรกิจ ได้คะแนน 62.0 คะแนน โดยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 20 ในเกณฑ์ดังกล่าว นับเป็นการปรับขึ้น 3 อันดับ จากเดิมเคยอยู่ในอันดับที่ 23 ในปี 2023 ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อีก 2 เกณฑ์นั้น พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ ด้านประสิทธิภาพภาครัฐ ได้คะแนน 56.1 คะแนน ทรงตัวอันดับที่ 24 เป็นปีที่ 2 ติดกัน ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้คะแนน 40.2 คะแนน ทรงตัวอันดับที่ 43 เป็นปีที่ 2 ติดกัน ที่น่าสนใจในเกณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน คือ ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมได้อันดับที่ 55 ซึ่งต่ำสุดทั้งในเกณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน และต่ำสุดในทั้ง 4 เกณฑ์หลัก ขณะที่อันดับด้านการศึกษา ซึ่งอยู่ในเกณฑ์โครงสร้างพื้นฐานนั้น ไทยอยู่ในอันดับที่ 54
สำหรับในอาเซียนนั้น พบว่ามีการจัดอันดัลเพียง 5 ประเทศ ได้แก่ อันดับ 1 สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3 ขั้น อันดับ 2 ไทย เพิ่มขึ้น 5 ขั้น อันดับ 3 อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 7 ขั้น อันดับ 4 มาเลเซีย ลดลง 7 ขั้น และอันดับ 5 ฟิลิปปินส์ ไม่เปลี่ยนแปลง ที่น่าสนใจ คือ อินโดนีเซียสามารถพัฒนาอันดับขีดความสามารถขึ้นมากที่สุดใน 5 ชาติอาเซียนถึง 7 ขั้น ท่ามกลางมาเลเซียมีอันดับร่วงลงถึง 7 ขั้น