นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ปะทะรุนแรงระหว่างกัมพูชากับไทยในช่วง 5 วันผ่านมา ส่งผลกระทบเศรษฐกิจไทย ความเชื่อมั่นของประชาชน และนักลงทุน ในเบื้องต้นนั้น ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมากกว่า 10,000 ล้านบาท ตัวเลขนี้ยังไม่รวมถึงเรื่องการค้าชายแดน
สำหรับแนวทางในการฟื้นฟูและเยียวยาผลกระทบด้านเศรษฐกิจซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ปะทะรุนแรงนั้น เมื่อพิจารณา งบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังเหลืออยู่ 42,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้ที่ตรงกลุ่มอยู่ 10,000 ล้านบาท ทำให้เหลืองบประมาณราว 25,000 ล้านบาท
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยังไม่มีแผนกู้เงินเพิ่มเติมในขณะนี้ ทุกอย่างยังอยู่ภายใต้กรอบงบประมาณปกติ แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้ออาจต้องประเมินอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดน จึงต้องมีการรวบรวมงบประมาณ ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไปด้วย รัฐบาลจะนำมาใช้ในงานฟื้นฟูและซ่อมแซมบ้านเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ยอมรับว่าหากงบประมาณที่มีอยู่ไม่เพียงพอ อาจต้องพิจารณาใช้งบประมาณจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม