ขุนคลัง เชื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนจีดีพีไทยไตรมาส 4 ปีนี้ ไม่ติดหล่ม โตไม่ต่ำกว่า 1% ยังห่วงบาทแข็งเป็นปัจจัยกดดัน

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลในวันที่ 30 ก.ย. 68 ทั้งโครงการคนละครึ่ง พลัส การเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการ การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และมาตรการ Thailand Fast Pass เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุน 4.7 แสนล้านบาท 

ตลอดจนการอนุมัติโครงการลงทุน 1.6 แสนล้านบาท ที่ขอรับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้ จนถึงปีถัด ๆ ไป รวมถึงเชื่อว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/68 ไม่ติดหล่ม สามารถขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 1% และทั้งปี 2568 มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 2%

อย่างไรก็ตามสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาทขณะนี้ว่า ได้หารือกับนายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างใกล้ชิด และเห็นว่าเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้น แม้จะเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของนโยบายการเงิน ซึ่งต้องมีความเป็นอิสระ แต่ในสภาพเศรษฐกิจขณะนี้จะต้องมีการทำงานที่ประสานกันมากขึ้น เพราะเห็นว่าเงินบาทที่แข็งค่ามากเกินไปจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจไทยคงรับไม่ได้อย่างแน่นอน แม้จะต้องยอมรับว่าการแข็งค่าของเงินบาทส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเงินโลกที่ผันผวน จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งส่งผลทำให้เงินไหลจากที่ต่ำไปสู่ที่สูง

ทั้งนี้ กระทรวงคลังยังเคารพในความเป็นอิสระของนโยบายการเงิน แต่สถานการณ์ขณะนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างนโยบายการเงินและนโยบายการคลังมากขึ้น ซึ่งในส่วนของคลังได้มอบนโยบายให้ส่วนราชการไปดูว่า นโยบายการคลังจะสามารถช่วยบรรเทาสถานการณ์นี้ได้อย่างไรบ้าง เช่น อาจจะให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่มีความจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบเร่งดำเนินการมากขึ้น การเร่งคืนหนี้ต่างประเทศของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ว่าจะสามารถทำได้แค่ไหน  

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles