นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (กนศ.) ครั้งที่ 7/2568 โดยมีคณะรัฐมนตรี และปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (กนศ.) ครั้งที่ 7/2568 ที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง ได้รับมอบหมายเป็นประธานการประชุม ได้เห็นชอบในหลักการและรับทราบการดำเนินมาตรการ “Quick Big Win” การเพิ่มโอกาสการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชน โดยกระทรวงการคลัง
โดยมาตรการเพื่อเพิ่มโอกาสการออมและความมั่นคงทางการเงินของประชาชนดังกล่าว จะช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการออมที่หลากหลายและสะดวกมากขึ้น ประชาชนมีแรงจูงใจในการออม กระตุ้นให้ผู้ที่มีรายได้ปานกลางและมีรายได้น้อยมีการออมเพิ่มขึ้น มีภาวะทางการเงินที่ดี (Financial Well-being) มีรายได้ที่เพียงพอในการดำรงชีพยามเกษียณอายุ และภาครัฐสามารถบรรเทาภาระงบประมาณด้านสวัสดิการกรณีชราภาพในการดูแลผู้ที่ไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยจะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้ง 3 ตัว ได้แก่ 1) ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาค 2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และ 3) ดัชนีความเชื่อมั่น SMEs มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีได้ฝากข้อสั่งการว่า ได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา ประกาศ ข้อกำหนด และคำสั่งที่เกี่ยวข้องตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 ธ.ค.) เนื่องจากเหตุภัยพิบัติได้คลี่คลายลง และเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูเมือง โดยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้ลงไปพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อติดตามเร่งรัดการฟื้นฟูเมือง รวมทั้งได้ไปที่จังหวัดสตูล เพื่อให้กำลังใจและรับฟังปัญหาจากประชาชน และคนทำงานในพื้นที่ ซึ่งที่นั่นก็มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเช่นกัน และนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายกระทรวงมหาดไทย เพื่อปรับปรุงเกณฑ์การจ่ายเงินผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาท ขยายให้ครอบคลุมผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมทั้งหมด 9 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม.