นายนิรัญ โพธิ์ศรี นายกสมาคมไทยรับ สร้างบ้าน (THBA) เปิดเผยว่า ความต้องการปลูกสร้างบ้านของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสแรก(มกราคม–มีนาคม 67) ยังชะลอตัวโดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัดที่ปริมาณความต้องการปลูกสร้างบ้านลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2566 ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปริมาณความต้องการยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว สาเหตุหลักเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว ค่าก่อสร้างและราคาพลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ยังกดดันและกระทบต่อกำลังซื้อ ทำให้ตลาดบ้านสร้างเองหดตัว
โดยผลสำรวจตลาดในไตรมาสแรก พบว่าบ้านกลุ่มต่ำกว่า 5 ล้านบาทได้รับความนิยมสูง รองลงมากลุ่ม 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนกลุ่ม 5-10 ล้านบาทความต้องการลดลงเหลือเพียง 9% สาเหตุสำคัญคาดว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและระมัดระวังการจับจ่ายมากขึ้นรวมถึงราคาค่าก่อสร้างบ้านที่สูงขึ้นทำให้ลดขนาดบ้านลงให้สอดคล้องกับวงเงิน
ส่วน 5 มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ สำหรับประชาชนผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาท ต่อค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาทนั้น ถือว่าผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีอย่างถูกต้อง ได้รับอานิสงค์จากมาตรการนี้น้อยมากและมาตรการนี้ยังไม่จูงใจผู้บริโภคมากนัก
ทั้งนี้ ประเมินไตรมาส 2 ความต้องการสร้างบ้านจะยังชะลอตัวต่อเนื่อง เป็นผลให้ตลาดรวมครึ่งปีแรกชะลอตัวตามกัน โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบนอกจากค่าก่อสร้างและราคาพลังงานที่สูงขึ้นแล้ว เรื่องของความไม่เชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ ล้วนเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจ นอกจากนี้ราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการ ยังมีนัยยะสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นในอนาคต ส่งผลกับกำลังซื้อธุรกิจรับสร้างบ้าน ผู้ประกอบการควรเตรียมรับมือ