นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยบั่นทอนความน่าเชื่อถือของนานาประเทศที่มีต่อประเทศไทยถึงขั้นวิกฤติ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ รวมถึงผลกระทบคนไทยทุกคน ข้อมูลงานวิจัย พบว่า ในทุกๆ ปี คนทำมาหากิน และนักธุรกิจถึง 1 ใน 3 ที่ติดต่อราชการในไทย ต้องสูญเสียเงินให้กับการคอร์รัปชันสูงเกือบ 300,000 ล้านบาท
นายอติคุณ เผอิญโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Eazy Car กลุ่มบริษัทไทยรุ่ง กล่าวว่า จากผลสำรวจ พบว่าคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยสิ้นหวังมากขึ้น โดย 44% ของคนไทยรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก ที่สำคัญ คือ มีถึง 38% ยอมรับว่า ไม่อยากให้ลูกเกิดมาในสังคมปัจจุบัน ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชัน คือทำอย่างไรให้ทุกคนมีความหวัง ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วยตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม ทำให้คนเห็นการโกงอย่างโปร่งใสชัดเจนขึ้น และสามารถจดจำ ประมวลผล องค์กรควรจะมอบความหวังให้คนรุ่นใหม่ สามารถสร้างสิ่งที่แตกต่างได้ในอนาคต
ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า เมื่อการคอร์รัปชันไม่เคยหยุด การต่อต้านคอร์รัปชันก็หยุดไม่ได้เช่นกัน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันขอเชิญชวนทุกภาคส่วน สร้างมิติใหม่ “ชวนคนไทยต้านโกง” ด้วย 3 ความร่วมมือ ดังนี้
- ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ตัวเราเอง: ดำเนินธุรกิจที่มีธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง กำหนดให้การไม่ทุจริตคดโกงเป็นนโยบายที่สำคัญ มีบทลงโทษที่ชัดเจน ทำให้การต่อต้านคอร์รัปชันเป็นวัฒนธรรมองค์กรยึดถือตั้งแต่ผู้นำไปจนถึงพนักงาน
- ร่วมมือกับเครือข่ายและพันธมิตร: ขยายการต่อต้านคอร์รัปชันไปยังคู่ค้า ลูกค้า และพันธมิตรรอบข้าง ให้ครบในทุกห่วงโซ่
- ร่วมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ซื่อตรงโปร่งใส: สนับสนุนและเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) ที่มีสมาชิกกว่า 1,600 บริษัท ผนึกกำลังให้เป็นเครือข่ายของภาคธุรกิจที่ร่วมมือกันต่อต้านการคอร์รัปชันที่เข้มแข็งในทุกรูปแบบ