ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่าภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่ามีจำนวนประกาศขาย 140,725 หน่วย มูลค่า 718,436 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุดร้อยละ 39.6 รองลงมาได้แก่ ทาวน์เฮ้าส์ร้อยละ 29.4 ห้องชุดร้อยละ 25.6 อาคารพาณิชย์ร้อยละ 3.8 และบ้านแฝดมีเพียงร้อยละ 1.6
ส่วนในด้านระดับราคาที่ประกาศขาย พบว่า ระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ประกาศขายมากที่สุดสัดส่วนร้อยละ 21.1 ขณะที่ระดับราคา 7.51 – 10.00 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยประกาศขายน้อยที่สุดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.0 ส่วนทำเลที่ประกาศขายมากที่สุด 10 อันดับแรกอยู่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ภูเก็ต ปทุมธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี และนครราชสีมา ตามลำดับ
ทั้งนี้ อุปทานที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ แยกตามประเภท ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 โดยที่อยู่อาศัยที่มีการประกาศขายมากที่สุดใน 3 ประเภทแรก ได้แก่ 1.บ้านเดี่ยว จำนวน 55,754 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 39.6 และมีมูลค่า 373,917 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 52.0 ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด 2.ทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 41,384 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29.4 มูลค่า 105,191 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14.6 ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด 3.ห้องชุด จำนวน 35,963 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.6 มูลค่า 201,887 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28.1 ของที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายทั้งหมด
สำหรับอาคารพาณิชย์ มีจำนวนเพียง 5,326 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.8 มีมูลค่า 30,635 ล้านบาท เป็นสัดส่วนร้อยละ 4.3 ในขณะที่บ้านแฝดมีจำนวนเพียง 2,298 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.6 มีมูลค่า 6,805 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.9