ดีดีพร๊อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งในไทย เปิดเผยว่า การที่จะซื้อบ้านราคา 3-7 ล้านบาท ควรจะมีรายได้เท่าไร? โดยตามคำแนะนำของสมาคมนักวางแผนการเงินไทยก็คือ ค่าผ่อนบ้านรวมกับหนี้สินอื่นๆ ไม่ควรเกิน 50% ของรายได้ หากคิดตามสูตรผ่อนล้านละ 7,000 บาท ควรมีรายได้ประมาณ 40,000-100,000 บาท ถ้าพิจารณาตามเกณฑ์ของธนาคารนั้น จะเปิดโอกาสให้ผ่อนสูงสุดถึง 60% ของเงินเดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับโปรไฟล์ของแต่ละบุคคล
ดีดีพร๊อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า สำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านนั้น รายได้ 60,000 บาท/เดือน ควรซื้อบ้านช่วงราคา 2.6-4.3 ล้านบาท รายได้ 80,000 บาท/เดือน ควรซื้อบ้านช่วงราคา 3.4-5.7 ล้านบาท และ 100,000 บาท/เดือน ควรซื้อบ้านช่วงราคา 4.3-7.1 ล้านบาท
ในขณะที่นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ยัเปิดเผยว่า ในปี 2567 มูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลปล่อยใหม่ทั่วประเทศจะอยู่ที่ 650,000 ล้านบาท ลดลง 4% จากปี 2566 สาเหตุจากสภาพเศรษฐกิจและภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง สถานการณ์ยอดการปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทไปจนถึงระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป
ที่น่าสนใจคือระดับราคาที่อยู่อาศัยเฉลี่ยเทียบกับรายได้ต่อหัวในจังหวัดสำคัญ หรือ GPP per Capita ได้แก่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยอัตราการเติบโตเฉลี่ยราคาที่อยู่อาศัยต่อปี หรือ CAGR 2557-2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 5.4% และอัตราการเติบโตเฉลี่ยรายได้ต่อหัวในจังหวัด หรือ CAGR 2557-2566 อยู่ที่ 1.4% ทำให้รายได้ต่อหัวของประชาชนในปี 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 347,900 บาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 30,000 บาท แต่ราคาบ้านอยู่ที่ 7 ล้านบาท ทำให้โอกาสที่จะยื่นกู้ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเป็นไปได้ยากมาก