นายสุพจน์ ตั้งเจริญ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย (Thai Financial Planners Association – TFPA) เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุถึงไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้วในปี 2567-2568 จากการมีสัดส่วนประชากรสูงอายุ หรือตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปมากถึง 20% ของประชากรทั้งหมด และยังพบว่าผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้หลังเกษียณมีสัดส่วนถึง 21.1% และที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีมากถึง 84% เช่นเดียวกันกับผลสำรวจจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าคนไทย 30% ไม่มีเงินเก็บเพื่อการเกษียณ และ 60% มีเงินเก็บไม่ถึง 200,000 บาท
กลุ่มอาชีพข้าราชการ ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความมั่นคง แต่ก็อาจมีคำถามว่าทำไมยังต้องวางแผนการเงิน สอดคล้องกับส่วนใหญ่ของกลุ่มอาชีพข้าราชการเข้าใจว่าสวัสดิการที่มีอยู่เพียงพอต่อชีวิตหลังวัยเกษียณแล้ว แต่อาจไม่ได้นึกถึงการปกป้องความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ไม่ได้ทำประกันชีวิต เพราะเมื่อเสียชีวิตแล้วสวัสดิการที่ได้รับก็จะสิ้นสุดไปด้วย ทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบเนื่องจากขาดรายได้
กลุ่มอาชีพนี้ควรฝึก 5 นิสัยเพื่อให้เก็บเงินได้รวดเร็วขึ้น ได้แก่ เลี่ยงสร้างหนี้ ตั้งเป้าหมายการออมที่ชัดเจน ตั้งงบประมาณต่างๆ ที่จะใช้ต่อเดือน บันทึกรายรับรายจ่ายอย่างง่าย และใช้เครื่องมือทางการเงินให้ถูกต้อง ตลอดจนควรแบ่งสัดส่วนเงินให้ชัดเจนด้วยการใช้เทคนิคขวดโหล 6 ใบ ประกอบด้วย ใบแรก แบ่งเงิน 55% เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ใบที่ 2 แบ่งไว้ 10% เพื่อเป็นเงินเก็บสำรอง ใบที่ 3 เตรียมไว้ 10% เพื่อพัฒนาตนเอง
ใบที่ 4 กันไว้ 10% เพื่ออิสรภาพทางการเงินโดยนำไปลงทุน เช่น หุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ ใบที่ 5 จัด 10% เพื่อให้รางวัลตนเอง และใบที่สุดท้ายต้องมี 5% เงินเพื่อการให้