นางสาวผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เปิดเผยรายงานผลสำรวจเกี่ยวกับการเดินทางและการท่องเที่ยวของประชาชนชาวไทย พบว่า ในไตรมาสที่ 3 นี้ คนไทยมีแนวโน้มเดินทางไปต่างจังหวัดประมาณ 31% ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดน้อยลง ทำสถิติต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา สาเหตุจากปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจในประเทศไทยที่ส่งผลต่อการชะลอการเดินทาง เช่น ภาวะเงินฝืด คนไทยขาดกำลังซื้อ ภาวะหนี้ครัวเรือนระดับสูง คนไทยจำนวนมากขึ้นที่ไม่มีงานทำ
ผลสำรวจยังพบว่า มี 61% ของประชาชนที่วางแผนเดินทางไปต่างจังหวัด จะเป็นการเดินทางข้ามภูมิภาค โดยส่วนใหญ่เดินทางไปภาคเหนือ และไปกรุงเทพ ขณะที่ 69% วางแผนการเดินทางไปยังจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกันกับภูมิลำเนาและมีการพักค้างคืน และ80% ของผู้เดินทางจะเดินทางในเดือนสิงหาคมในช่วงวันแม่แห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม คนไทย 12% ในกลุ่มสำรวจนี้มีแผนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในไตรมาส 3 แต่เป็นสัดส่วนที่ลดลงจากไตรมาสที่สอง คนไทยส่วนใหญ่นิยมท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และเวียดนาม
สำหรับการเดินทางและท่องเที่ยวของคนไทยในไตรมาสที่ 2 ผ่านไปนั้น พบว่า การใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างจังหวัดของคนไทยเฉลี่ย 4,976 บาท/คน/ทริป ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นผลจากการมีช่วงวันหยุดยาวเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญ เป็นช่วงปิดภาคการศึกษา โดย 60% ของผู้ที่เดินทางไปต่างจังหวัด เป็นการเดินทางข้ามภูมิภาค มี 62% เดินทางไปยังจังหวัดในภาคเดียวกันกับภูมิลำเนาและมีการพักค้างคืน
ขณะที่ 87% เน้นเดินทางเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยว นอกจากนี้ มี 47% นักท่องเที่ยวไทยนิยมพักโรงแรม 47% อีก 43% พักรีสอร์ต มีมากถึง 64% พักบ้านญาติหรือพี่น้อง ในด้านวิธีการเดินทาง พบว่า 85% ใช้รถยนต์ส่วนตัว 85% และ 12% เดินทางด้วยเครื่องบิน