นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ในฐานะคณะอนุกรรมการภายใต้แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.วันพรุ่งนี้จะเริ่มพิจารณา งบบางส่วน ภายใต้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 157,000 ล้านบาท
โดยอนุกรรมการฯ จะหารือเพื่อสรุปรายละเอียดโครงการที่เสนอของบประมาณภายใต้แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หรืองบกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกรอบในวันนี้ และคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 มิถุนายนนี้ พิจารณาเห็นชอบ
ขณะที่ในเบื้องต้น จะเสนอ ครม.เพื่อเห็นชอบโครงการบางส่วนก่อน โดยจะเน้นไปที่โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศเป็นหลัก โดยมีโครงการที่เสนอของบฯ มาเป็นจำนวนมาก และทางคณะอนุกรรมการฯได้พิจารณาไปแล้วหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้พิจารณาการใช้งบฯ ไปหลายครั้งแล้ว โดยมีคำขอเสนอมากกว่า 400,000 ล้านบาท มากกว่า 10,000 โครงการ ทำให้คณะกรรมการต้องพิจารณาอย่างเข้มข้นและคัดเลือกโครงการที่เหมาะสมที่สุด การอนุมัติโครงการต่าง ๆ จะต้องให้เม็ดเงินลงสู่ระบบได้เร็วที่สุด และสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากมีกรอบระยะเวลาที่กำหนด เพราะจะต้องใช้เงินก่อนวันที่ 30 ก.ย. 68
สำหรับ ข้อเสนอโครงการ/มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน-ด้านน้ำ พัฒนา/ปรับปรุงระบบประปา-ด้านคมนาคม แก้ไขปัญหาด้านการจราจรในพื้นที่ที่เป็นคอขวดและขาดความเชื่อมโยง ปรับปรุง/พัฒนาถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่การผลิต งบด้านการท่องเที่ยวเช่น ปรับปรุง/พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สนามกีฬา และสิ่งอำนวยความสะดวก กระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองรอง รวมถึงลดผลกระทบภาคการส่งออก/เพิ่มผลิตภาพ-ด้านการเกษตร เพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร ตลอดจนเศรษฐกิจชุมชนและอื่น ๆ กองทุนหมู่บ้าน (SML) สนับสนุนงบประมาณแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเป็นแหล่งเงินให้กับประชาชนในพื้นที่ และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เป็นต้น