นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงถึงผลการประชุม ครม.เศรษฐกิจที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยที่ประชุมเป็นห่วงสถานการณ์ ราคาปาล์มน้ำมัน ซึ่งในเดือนพฤษภาคม ราคาที่เกษตรกรขายได้อยู่ที่ 3.70 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิต โดยราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ต้องประมาณ 5 บาทต่อกิโลกรัม จึงจะต้องหาแนวทางรักษาเสถียรภาพ
ทั้งนี้ ปาล์มน้ำมันเป็นพืชพลังงานที่มีวงรอบให้ผลผลิต ช่วงที่ผลผลิตออกมาราคาจะต่ำ ช่วงผลผลิตออกน้อย ราคาจะสูง ซึ่งเป็นปัญหามายาวนาน ขณะที่วงจรการผลิตและจำหน่าย ชาวสวนจะนำมาขายให้ลานรับซื้อ พ่อค้าคนกลางจะซื้อไปจำหน่ายต่อให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม จากนั้นจำหน่ายต่อไปโรงกลั่น B100 แม้มีการนำมาผสมกับน้ำมันดีเซลเป็นไบโอดีเซลแล้ว แต่ยังมีผลผลิตส่วนเกินจากความต้องการใช้จึงเป็นเหตุให้บางช่วงราคาตก ปัจจุบันผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดน้อยลงทำให้ราคาปรับขึ้นบ้างแล้ว (ข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรระบุว่า ราคาตลาดกลางและตลาดสำคัญ วันที่ 7 มิถุนายน 2567 อยู่ที่ 4.60 – 5.10 บาทต่อกิโลกรัม
นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังจะหารือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ราคารับซื้อเป็นไปตามราคาประกาศของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและราคายืนไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมได้ ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงานไปร่วมกันหามาตรการสร้างสมดุลราคาปาล์มน้ำมันส่วนในระยะยาวจะปรับการผลิตภาคการเกษตรไปสู่เกษตรมูลค่าสูงและสอดคล้องกับความต้องการใช้เพื่อไม่ให้มีผลผลิตส่วนเกินซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรมีเสถียรภาพ