นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ. ) กู้เงินในประเทศ ตามแผนงานระยะยาวใหม่ ปี 2566 จำนวน 5 แผนงาน วงเงินรวม 3,052 ล้านบาท ได้บรรจุวงเงินกู้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ การลงทุน 5 แผนงานประกอบด้วย
1. แผนงานปฏิบัติการดิจิทัลด้านสื่อสารและโทรคมนาคมของ กฟภ. ปี 2566 ใช้พัฒนาโครงข่ายสื่อสารของ กฟภ. ให้ครอบคลุม การจัดการเทคโนโลยีดิจิทัลให้มีความรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของสายงานต่าง ๆ ช่วยสนับสนุนกระบวนการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้เงินกู้ภายในประเทศ 300 ล้านบาท
2. แผนระยะยาวการก่อสร้างเคเบิลใต้ดิน (เฟส2) เพื่อก่อสร้างและปรับปรุงสายไฟฟ้าเหนือดินเป็นเคเบิลใต้ดินในพื้นที่ 74 จังหวัด ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กฟภ. การปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม การสนับสนุนงบประมาณทางด้านงานโยธา ในปี 2566-2568 เงินกู้ภายในประเทศ 1,537 ล้านบาท
3. แผนงานก่อสร้างปรับปรุงอาคาร 2 และผังบริเวณ กฟภ. สำนักงานใหญ่ เพื่อขอรับการประเมินและการรับรองมาตรฐาน LEED4 เป็นการปรับปรุงอาคาร 2 เป็นสำนักงานยุคใหม่ (Modern-Office) และเป็นอาคารประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Office) ได้รับรองตามมาตรฐาน-LEED โดยปัจจุบันอาคาร 2 เป็นอาคารเก่าที่มีอายุการใช้งานประมาณ 40 ปี มีสภาพอาคารที่เสื่อมโทรม ระยะเวลา 2566-2568 เงินกู้ภายในประเทศ 302 ล้านบาท
4. แผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพระบบควบคุมและป้องกันสถานีไฟฟ้า เฟส ปัจจุบันมีสถานีไฟฟ้าที่ใช้งานระบบ CSCS จำนวน 653 สถานี ใช้งานยาวนานเกินกว่า 10 ปี ทำให้อุปกรณ์หลักของระบบ CSCS เริ่มมีการชำรุดบ่อยครั้ง จึงต้องรื้อถอนระบบ CSCS เดิมออกและติดตั้งระบบ CSCS ใหม่ทดแทน ดำเนินการในปี 2566-2569 เงินกู้ภายในประเทศ 343 ล้านบาท
5. แผนงานปฏิบัติการดิจิทัลด้านระบบงานและแพลตฟอร์ม ปี 2566 เป็นการพัฒนาแนวทางการบริหารและจัดการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ รวมทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สอดคล้องต่อทิศทางการดำเนินงานและแนวโน้มทางด้านเทคโนโลยีและส่งเสริมขีดความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ระยะเวลาดำเนินการ 2566-2567 เงินกู้ภายในประเทศ 570 ล้านบาท