ครั้งแรกในรอบ 32 ปี แบงก์ชาติสหรัฐเสียงแตก 9 ต่อ 2 เสียง ให้ตรึงดอกเบี้ยต่อไป เปิด 2 เสียงมองควรลดดอกเบี้ยได้แล้ว แรงกดดันการเมืองสหรัฐ ปธน.ทรัมป์แซะแรงแซะถี่ได้ผล

ครั้งแรกในรอบ 32 ปี แบงก์ชาติสหรัฐเสียงแตก 9 ต่อ 2 เสียง ให้ ตรึงดอกเบี้ย ต่อไป เปิด 2 เสียงมองควรลดดอกเบี้ยได้แล้ว แรงกดดันการเมืองสหรัฐ ปธน.ทรัมป์แซะแรงแซะถี่ได้ผล

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินลงมติคะแนนเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ที่ 9 ต่อ 2 เสียงให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 4.25-4.50% กรรมการมี 9 คนลงมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น และอีก 2 คน คือ นางมิเชล โบว์แมน และนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ลงมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น สาเหตุจากภาวะเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกาอยู่ภายใต้การควบคุม ตลาดการจ้างงานอาจเริ่มแย่ลงในอนาคต มติที่เป็นเอกฉันท์ดังกล่าวส่งผลเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1993 ที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดมีเสียงไม่เป็นเอกฉันท์ นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกงดออกเสียงมากกว่า 1 รายในการประชุมคืนผ่านมา

สำหรับมติตรึงดอกเบี้ยระยะสั้นในคืนผ่านมา นับเป็นการตรึงติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือนธันวาคมในปี 2024 เป็นต้นมา ท่ามกลางแรงกดดันอย่างมากและต่อเรื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลงได้แล้ว

ประธานเฟด กล่าวต่อไปว่าอย่างชัดเจนว่า เฟดไม่ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนกันยายนนี้ โดยให้เหตุผลว่า ขอรอดูข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจ ในขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จำตัดสินใจดังกล่าว อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ไม่เป็นปัจจัยหน่วงรั้งสภาพเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

สำหรับภาษีนำเข้าสินค้าที่สูงขึ้นนั้น พบว่า ผลกระทบต่อราคาสินค้าบางอย่างมีชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบในภาพรวมเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อยังคงต้องใช้เวลาติดตามกัน ในกรณีพื้นฐานนั้น ผลกระทบกับเงินเฟ้อจะเป็นเพียงชั่วคราว แต่เฟดก็ระวังว่าการเก็บภาษีนำเข้าอาจทำให้เงินเฟ้อเปลี่ยนแปลงไปในระยะยาว ด้านแรงงานในสหรัฐนั้นอาจมีความเสี่ยง ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะมีข้อมูลจำนวนมากที่จะช่วยวิเคราะห์สมดุลของความเสี่ยงในเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยการตัดสินใจการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่กลางไตรมาสที่ 2 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์รวมถึงการโพสต์ข้อความที่สร้างแรงกดดันไปยังประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดอย่างต่อเนื่อง ด้วยความต้องการอยากจะเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ด้วยการยกตัวทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับภาวะค่าครองชีพของคนอเมริกันมาชี้ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อต้นเดือนนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความพร้อมกับกราฟิกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปัจจุบันของธนาคารกลางจำนวน 44 แห่งทั่วโลก โดยเขียนข้อความบนกราฟฟิกว่า เจอโรม (ประธานธนาคารกลางสหรัฐ) คุณเป็นคนที่ร่ำไรชักช้า เหมือนอย่างปกติที่คุณเป็น คุณสร้างต้นทุนให้กับความมั่งคั่งของประเทศสหรัฐอเมริกา และยังคงที่จะทำเหมือนเดิม คุณควรจะลดอัตราดอกเบี้ยลงมาให้มาก เงินจำนวนมากมายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ต้องเสียหายไป

นายโดนัลด์ ทรัมป์ เขียนด้วยลายมือว่า ควรจะอยู่ตรงนี้ พร้อมกับขีดสัญลักษณ์ปีกกาคลุมไว้ตรงตัวเลขอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลาง 6 ประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดใน 44 ประเทศ ได้แก่ สวิสเซอร์แลนด์ที่ 0.25% กัมพูชาที่ 0.45% ญี่ปุ่นที่ 0.5% เดนมาร์ก ซีเชลล์ และไทยที่ 1.75% ในขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ไฮไลท์สีเหลืองคลุมข้อมูลดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 4.50% ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอยู่อันดับที่ 35 และอยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสูงสุดในข้อมูล 44 ประเทศที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ นำมาชี้แจงในครั้งนี้

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โพสต์ต่อไปว่า การเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด แต่ถึงกระนั้น โดยตำแหน่งที่ทรงคุณค่าและดูยิ่งใหญ่ กลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เราควรจะจ่ายดอกเบี้ยเพียง 1% หรือดีกว่านั้น

ทั้งนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวยอมรับว่า ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวในทิศทางชะลอตัวลง โดยเติบโตที่ 1.2% แต่อยู่ในภาวะที่ดีที่ ซึ่งรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ในขณะที่ช่วงครึ่งแรกของปี 2024 เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเติบโตที่ 2.5%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles