นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณานโยบาย “สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ” หรือ ” หวยเกษียณ ” เป็นนวัตกรรมเชิงนโยบายที่รวมเอาลักษณะการชอบเสี่ยงดวงของคนไทยมาเป็นแรงจูงใจในการเก็บออม โดยจะมีการออกรางวัลทุกสัปดาห์ ส่วนสลากที่ไม่ถูกรางวัลจะเก็บสะสมเป็นเงินออมและสามารถถอนเงินที่ซื้อสลากทั้งหมดออกมาได้ตอนเกษียณ (อายุ 60 ปี) โดยจะขายให้กับ 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ 1.สมาชิก กอช. 2.ผู้ประกันตน ม. 40 และ 3.แรงงานนอกระบบ ทั้งนี้อาจะมีกลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มเติมภายหลัง
ทั้งนี้ สลากเกษียณจะออกโดยกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เป็นสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท กำหนดให้ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อเดือน เปิดให้ซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น กอช.
โดยสามารถซื้อสลากได้ทุกวัน และจะออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00 น. ผู้ถูกรางวัลจะได้เงินรางวัลทันที ส่วนเงินค่าซื้อสลากถูกเก็บเป็นเงินออมในบัญชี กอช. ของผู้ซื้อสลาก แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม โดย กอช. จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิตออกมาได้
สำหรับรางวัลของสลากจะออก “ทุกวันศุกร์” ดังนี้
รางวัลที่ 1 จำนวน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล
รางวัลที่ 2 จำนวน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล
ซึ่งจะใช้เงินงบประมาณสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท หรือปีละ 780 ล้านบาท
ซึ่งนโยบายนี้จะช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาคนไทยแก่แต่จน แก่แต่ไม่มีเงินเก็บ เพราะการออมภาคสมัครใจในปัจจุบันไม่ได้ผลเนื่องจากไม่มีแรงจูงใจที่เพียงพอ ต้องอาศัยกลไกการออมที่ผูกกับแรงจูงใจ
สำหรับการซื้อสลากเกษียณ จะเป็นการซื้อหวยถูกกฎหมาย เงินไม่หาย กลายเป็นเงินออมยามเกษียณ ถูกรางวัลได้เงินเลย หากไม่ถูกรางวัลทุกบาททุกสตางค์จะเก็บเป็นเงินออมยามเกษียณ ดังนั้นซื้อมาก ก็ยิ่งได้ลุ้นมาก และมีเงินออมมาก
“นโยบายนี้เป็นหนึ่งในนโยบายที่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงเลือกตั้งและได้แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวยังอยู่ระหว่างขัดเกลารายละเอียดและรับฟังความคิดเห็น ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ ราว 6 เดือน – 1 ปี จึงไม่เกิดขึ้นเร็วอย่างแน่นอน แต่จะพยายามเร่งรัดให้เร็วที่สุด”