นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ยอมรับว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย แต่กระทบเพียงเล็กน้อยและในระยะสั้นเท่านั้น โดยหลังจากนี้ ทุกภาคส่วนต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นที่เป็นรูปธรรม ผ่านกระบวนการต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำงานกันอย่างกระชับ และทันท่วงในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในมิติต่างๆ
ส่วนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทั้งหมด ก็ได้เร่งออกมาตรการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ทันที ส่วนกรมธนารักษ์ ก็เตรียมจะมีมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ออกมา โดยยืนยันว่ากระทรวงการคลังจะมีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือออกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ต่อ GDP ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอประเมิน แต่เบื้องต้นคาดว่าจะไม่เยอะ โดยทุกหน่วยงาน อาทิ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และกระทรวงการคลัง ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องในส่วนนี้ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนจะต้องมีการใช้งบประมาณในการดูแลให้ความช่วยเหลือมากน้อยแค่ไหนนั้น คงต้องรอประเมินผลกระทบก่อน ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในช่วงของการประเมิน แต่เบื้องต้นคาดว่าจะไม่สูงมาก
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า ขณะนี้ตลาดทุนยังคงเปิดทำการปกติ ส่วนตลาดการเงิน และระบบการธนาคารไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ยังคงเปิดให้บริการประชาชนได้อย่างปกติเช่นกัน ขณะที่ระบบราชการ โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงการคลัง ยังปฏิบัติภารกิจได้ตามปกติ จึงอยากให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าในเรื่องระบบเสาหลักของเศรษฐกิจทั้งเรื่องการเงิน-การคลังนั้น ยังสามารถดำเนินการได้ตามปกติแน่นอน
สำหรับภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้นั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างการประเมิน แต่เชื่อว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น จะเป็นเพียงเหตุการณ์ระยะสั้นเท่านั้น ส่วนพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความเข็มแข็ง และรัฐบาลยังเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้ตัวเลข GDP ปีนี้ขยายตัวได้ถึง 3% หรือถ้าไปไกลกว่า 3% ก็จะเป็นเรื่องที่ดี