คลัง พร้อมรับฟังทุกความเห็นโครงการ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ด้านนักวิชาการแนะจัดทำประชามติ หวั่นกาสิโนทำคนไทยติดพนันเพิ่ม

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานสัมมนา “Entertainment Complex Game Changer For Thailand” ว่า เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในมุมมองเศรษฐกิจคงหารือกันไม่นาน เพราะมีผลทางเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่เป็นห่วง คือ ผลกระทบทางสังคม เมื่อรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภา จึงต้องผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง เมื่อกฤษฎีกาแก้ไขหลายด้านให้รัดกุมมากขึ้น นับว่าตอบข้อห่วงใยได้ดีหลายด้าน รัฐบาลพร้อมเชิญทุกฝ่ายแสดงความเห็นในชั้นกรรมาธิการ เพื่อแก้ไขร่างกฎหมายร่วมกันจัดทำให้ครอบคลุมในกระบวนการของสภา

ทั้งนี้ จากบทเรียนในต่างประเทศ ทั้งรัฐเวกัส เริ่มด้วยกาสิโน ตั้งอยู่ในทะเลทราย สิงค์โปร์ เริ่มด้วย เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และปรับให้มีกาสิโน รองรับการท่องเที่ยว เมืองมาเก๊าปรับให้เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพิ่มเติมภายหลัง สำหรับไทยนั้น เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต้องการสร้างการท่องเที่ยว รองรับทั้งครอบครัว ในการทำกิจกรรมร่วมกัน ร่างกฎหมายกำหนดให้มีโรงแรม สถานที่จัดนิทรรศการ สวนสนุก สินค้าโอท็อป คาดจะทำให้การท่องเที่ยวโตร้อยละ 5-10 สร้างรายได้ต่อหัวจาก 40,000 เพิ่มเป็น 60,000 บาทต่อหัว กำหนดสัดส่วนพื้นที่กาสิโนร้อยละ 10 สินค้าโอท็อปและวัฒนธรรมร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมด ยอมรับดึงดูดเม็ดเงินลงทุนกว่าแสนล้านบาท

โดยรัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นหลายฝ่าย ต้องให้องค์กรมาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ มีคณะกรรมการนโยบายโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คณะกรรมการบริหารมีกรรมการจากหลายฝ่ายคอยดูแล จึงล็อคเสปคก่อนไม่ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องทุนสีเทา เม็ดเงินลงทุนนับแสนล้านบาท คงไม่ยอมเสี่ยงให้เกิดปัญหาเหล่านี้ เพราะเสี่ยงจากการถอนใบอนุญาต รัฐบาลมีกำไกกับดูแล และกำหนดแนวทางป้องกันหลายด้านลดผลกระทบ”

ด้านนายศึกษิษฎ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ร่างกฎหมายได้ข้อกำหนดเพื่อลดผลกระทบ เช่น บัญชีเงินฝากต้องมากกว่า 50 ล้านบาท ค่าแรกเข้ากาสิโนต่อครั้งไม่เกิน 5,000 บาท หากไม่พร้อมไม่ต้องเข้าโครงการมีการจ้างงาน มูลค่าไลเซ่นต้องเป็นอย่างมีระบบการสุ่มตรวจ การห้ามโฆษณา จุดตั้งกาสิโนต้องไม่เด่นชัดเจน ท้ายสุดเป็นหน้าที่ของสภาพิจารณาร่างกฎหมาย อาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมหลายด้าน จะนำข้อกำหนด ข้อห้ามหลายด้านของต่างประเทศมาบรรจุไว้

ขณะที่ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวว่า สิงคโปร์ มีปัญหาด้านการท่องเที่ยว แต่คาสิโนมีความเสี่ยง จึงกำหนดมาตรการป้องกันหลายด้าน แต่ไทยนำตัวอย่างนี้มาใช้ไม่หมด เมื่อสิงคโปร์กังวลครอบครัว ชุมชน จะมีปัญหาตามมา จึงได้ออกกฎหมายบังคับใช้อย่างชัดเจน การบังคับใช้กฎหมายจริงจัง การเยี่ยวยาผู้ติดการพนัน การสร้างภูมิคุ้มกัน ให้การศึกษาเยาวชนเข้าใจเกมเหล่านี้มีความเสี่ยงอย่างไร โดยยอมรับว่าคนติดการพนัน จิตแพทย์แก้ปัญหายากมาก จึงกังวลสิ่งเหล่านี้ อีกทั้งกาสิโนเป็นแหล่งผิดกฎหมาย วงการอาชญากรรมชอบเข้ามาฟอกเงิน เป็นโจทย์ใหญ่รัฐบาลต้องแก้ไขและป้องกัน

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล นักเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ไทยยังอยู่ในประเทศติดอันดับการทุจริตคอร์รัปชัน 107 ของโลกนับว่าเป็นอันดับสูงมาก เพราะกลุ่มมิจฉาชีพ อาชญากรรมจะใช้บ่อนกาสิโนเป็นแหล่งฟอกเงิน จึงอยากให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะหวั่นคนไทยติดการพนันเพิ่ม ควรจัดให้จัดทำ “ประชามติ” ในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทย จะเป็นทางออกที่สวยงาม

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles