นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าไทยจะเปิดให้มีการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 0% หลายหมื่นรายการนั้น ไม่อยากให้ไปตกใจกับจำนวนสินค้าที่ไทยจะเปิดให้ 0% เพราะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพิกัดภาษีศุลกากรมีจำนวนมาก เช่น ปลากระป๋อง มีทั้งปลากระป๋องในน้ำมัน ปลากระป๋องในน้ำแร่ และปลากระป๋องในน้ำเกลือ สินค้าเหล่านี้มีพิกัดแยกทั้งหมด ดังนั้นเมื่อฟังตัวเลขอาจจะดูน่าตกใจ แต่ในข้อเท็จจริงหากนับเป็นประเภทแล้ว ไม่ได้มากขนาดนั้น
โดยเบื้องต้นไทยอาจจะไม่สามารถเปิดได้ทั้งหมดเหมือนกับประเทศที่ได้มีการตกลงกันไปแล้ว เพราะการเปิดข้อเสนอทั้งหมดจะมีผลกระทบอย่างมาก เช่น เวียดนาม ที่ได้ภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ 20% แต่ต้องเปิดตลาดสินค้านำเข้าให้สหรัฐฯ เหลือ 0% ซึ่งมองว่าการดำเนินการแบบนี้ อาจจะไม่ได้จบแค่สหรัฐฯ เพราะยังมีเรื่องอนุสัญญาว่าด้วยชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่ง (Most Favored Nation : MFN) ด้วย ซึ่งหมายความว่าหากเราให้ภาษี 0% กับบางประเทศ ก็อาจจะต้องให้กับประเทศคู่ค้าอื่น ๆ ด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการในประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะกับสินค้าที่ประเทศไทยพยายามปกป้อง ทั้งภาคเอกชน และภาคเกษตรกร
หากไทยมีการเปิดเสรีนำเข้าสินค้า 0% ให้กับประเทศหนึ่ง ก็อาจจะโดนหยิบยกมาเป็นข้อเรียกร้องทันที โดยเฉพาะกับสินค้าที่รัฐบาลพยายามปกป้อง ทำให้เกิดความเสียหายกับภาคธุรกิจในประเทศ ส่วนสินค้าบางประเภทที่ปัจจุบันก็มีการให้ภาษีนำเข้า 0% อยู่แล้ว ถ้าไทยเปิดเพิ่มเติม ก็ถือเป็นการเปิดให้มีการแข่งขันกัน
ส่วนการเพิ่มเม็ดเงินลงทุน ซึ่งหากสอดคล้องกับแผนการลงทุนของภาคเอกชน หรือรัฐวิสาหกิจอยู่แล้ว ก็อาจจะให้ขยับไปลงทุนในสหรัฐฯ ซึ่งอาจจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็จะได้ประโยชน์ในเรื่องของการเจรจา เช่น เรื่องพลังงาน เหล่านี้ก็มีอยู่ในแผนการเจรจรอยู่แล้ว โดยมองว่าข้อเสนอหรือข้อตกลงที่ไทยเจรจากับสหรัฐฯ จึงยึดหลักที่จะต้องได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย
ส่วนจะมีสินค้ากลุ่มไหนบ้างที่ไม่สามารถให้ภาษีนำเข้า 0% หรือสินค้ากลุ่มไหนบ้างที่ให้ภาษีนำเข้า 0% แก่สหรัฐฯ ได้นั้น คงยังไม่สามารถตอบได้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ทีมไทยแลนด์ ได้ปรับปรุงข้อเสนอเรื่องภาษีสินค้ากับสหรัฐฯ ภายใต้เงื่อนไขใหม่เพิ่มเติมให้แก่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ไปเมื่อวันที่ 17 ก.ค.แล้วนั้น ขณะนี้สหรัฐฯ ยังไม่ได้มีการตอบกลับมา ซึ่งระหว่างนี้ยังเป็นการอัปเดตข้อมูล และเคลียร์ตัวเลขบางส่วนของแต่ละข้อเสนอให้ตรงกัน