นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (2 เม.ย.2567) ว่า กรมสรรพากรและกระทรวงการคลังจะดำเนินการยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเก็บ ภาษี มูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้านำเข้า โดยไม่มีข้อยกเว้นสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาและทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อยในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาตามข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศกำหนดกติกาการส่งสินค้าข้ามพรมแดนสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ให้ยกเว้นการเก็บภาษีอากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้า
โดยการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำว่า 1,500 บาท ประเมินโดยเฉลี่ยคาดว่ามีการนำเข้าราวปีละ 18,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะทำให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้ราว 100 ล้านบาท และที่สำคัญจะเป็นการสร้างความยุติธรรมกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในประเทศ
ทั้งนี้ กฎหมายที่จะบังคับใช้จะอยู่บนพื้นฐานของข้อตกลงระหว่างประเทศ สอดคล้องกับกลไกการเก็บภาษีขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาระหว่างประเทศ (OECD) โดยการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านแพลตฟอร์ม (Vendor Collection Model) ให้แพลตฟอร์มเป็นผู้จัดส่งภาษีให้รัฐ ซึ่งเป็นกลไกที่ทั่วโลกเริ่มบังคับใช้เพื่อรองรับการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการยกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าไม่เกินเดือนพ.ค.นี้จะเริ่มมีการเก็บภาษี VAT ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เพื่อสร้างบรรยากาศการค้าที่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการภายในประเทศหรือต่างประเทศที่จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราเดียวกัน ซึ่งกลไกดังกล่าวเป็นภารกิจที่รับมอบจากนายกฯ ให้ไปดำเนินการ โดยเน้นย้ำว่า 2 เดือนต่อจากนี้เชื่อว่าจะเกิดบรรยากาศการค้าและลงทุนที่มีมาตรฐานและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย