คาดเงินเฟ้อปี 68 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวแตะ 0.7% ต้นทุนค่าแรงขึ้นกว่า 3% ไม่สูงมาก คาดไม่ดันราคาสินค้าขายขึ้นสูงเกิน คนไม่มีกำลังซื้อ หนี้ครัวเรือนติดลมบน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือน ธ.ค. 2567 เร่งตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.23% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ธ.ค. 2567 อยู่ที่ 0.79% เทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากราคาพลังงานอย่างค่าไฟฟ้าและราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้นจากปัจจัยฐานต่ำในเดือน ธ.ค. 2566 เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของทางภาครัฐ ประกอบกับราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มบางรายการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ทั้งปี 2567 เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 0.4% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 0.5% เล็กน้อย ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยปี 2567 อยู่ที่ 0.6%

ขณะที่ในปี 2568 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.7% เนื่องจาก ภาครัฐจะยังคงราคาพลังงานในประเทศในระดับใกล้เคียงเดิม โดยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลยังมีแนวโน้มถูกตรึงอยู่ที่ไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ท่ามกลางภาระหนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกฟผ. ที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงมากขึ้น ขณะที่ฐานราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล (Retail price including VAT) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 นั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 33 บาทต่อลิตร

มาตรการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่มีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 มาอยู่ที่เฉลี่ย 355 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.9% คาดว่าจะส่งผลกระทบให้ต้นทุนแรงงานของธุรกิจเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 2% อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตมีแนวโน้มส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมายังผู้บริโภคได้เพียงบางส่วน ท่ามกลางการแข่งขันสูง ประกอบกับแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่อ่อนแรงลงตามความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผลต่อเงินเฟ้อคาดว่าจะมีจำกัดโดยอยู่ที่ราว 0.08%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles