นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่สายงานขายและบริการหลังการขาย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การบริหารเครือข่ายผู้จำหน่ายและศูนย์บริการเป็นไปตามแผนธุรกิจของทางบริษัท ซึ่งมีทั้งการแต่งตั้งผู้จำหน่ายรายใหม่หรือยกเลิกผู้จำหน่ายรายเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินธุรกิจและสถานการณ์ตลาดในแต่ละพื้นที่ โดยมีปัจจัยหลายอย่างในการพิจารณาและดำเนินการ เช่น ความพร้อมและศักยภาพของผู้จำหน่าย ศักยภาพของพื้นที่ เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและการให้บริการอันเป็นเลิศกับลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทุกท่านที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นสำคัญ การประกาศยุติการดำเนินงานของผู้จำหน่าย มิตซู รีพับบลิค ย่านรังสิต (มีผลวันที่ 1 ธันวาคม 2567) ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด และลูกค้าในย่านรังสิตยังคงเข้ารับบริการได้ที่ผู้จำหน่ายมิตซูรุ่งเจริญ (สาขาตลาดไท) ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายรายใหญ่ที่เปิดให้บริการมานานแล้ว หรือที่ผู้จำหน่ายมิตซู เอเบิล รังสิต-นวนคร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
โดยเป็นหนึ่งในเครือข่ายผู้จำหน่ายรายใหญ่ ที่ขยายสาขาเพิ่มเติมขึ้นมาและเพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจของทางบริษัทที่วางไว้ตั้งแต่ต้น
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาแล้วกว่า 63 ปี มีโรงงานผลิตและประกอบรถยนต์ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ซึ่งเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนอกประเทศญี่ปุ่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ และส่งออกไปกว่า 120 ประเทศทั่วโลก
โดยในปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีเครือข่ายผู้จำหน่ายและศูนย์บริการรวม 194 แห่งทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 ธันวาคม 2567) พร้อมให้บริการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ บริการหลังการขายและอะไหล่แท้ และทางบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะมีการเปิดตัวในปีหน้า และจะยังคงพัฒนายกระดับการให้บริการหลังการขาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาโดยตลอด ทั้งนี้เพื่อให้คุณอุ่นใจและมั่นใจได้ ภายใต้สโลแกน “เราดูแล…คุณแค่ขับ”