ค่ายรถวอลโว่ประกาศปลดพนักงานในออฟฟิศครั้งใหญ่ 15% ตกงาน 3,000 คนทั่วโลก เป็นหนึ่งในแผนลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่กว่า 62,000 ล้านบาท

ค่ายรถวอลโว่ประกาศ ปลดพนักงาน ในออฟฟิศครั้งใหญ่ 15% ตกงาน 3,000 คนทั่วโลก เป็นหนึ่งในแผนลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่กว่า 62,000 ล้านบาท

นายฮาคาน ซามูเอลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ วอลโว่ คาร์ส ผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์วอลโว่ชื่อดังระดับโลกในประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานประจำที่ทำงานอยู่ในสำนักงาน ซึ่งเป็นการปลดพนักงานครั้งใหญ่ออกถึง 15% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด หรือคิดเป็น 3,000 คนตกงานทั่วโลก สำหรับการปลดพนักงานที่ประกาศในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการตัดลดค่าใช้จ่ายในภาพรวมที่ได้ประกาศไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายในการตัดลดค่าใช้จ่ายให้ได้มากถึง 1,800 ล้านโครนาสวีเดน หรือ 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 62,700 ล้านบาท

แผนการปลดพนักงานของวอลโว่ ระบุชัดเจนว่าจะต้องปลดพนักงานประจำที่ทำงานในสำนักงาน หรือออฟฟิศ ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนพนักงานในสำนักงานมากถึง 40% ของจำนวนพนักงานในภาพรวมทั้งหมด สาเหตุจากค่ายรถยนต์วอลโว่ต้องเผชิญกับต้นทุนในการดำเนินกิจการเพิ่มสูงขึ้นในขณะที่ยอดขายตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถอีวีชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญสถานการณ์การกีดกันทางการค้าโดยใช้สงครามภาษีมีผลกระทบต่อธุรกิจขายรถยนต์วอลโว่อย่างมากและชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับค่ายรถยนต์แบรนด์อื่นๆทั่วโลก

ซีอีโอ วอลโว่ คาร์ส เปิดเผยต่อไปว่าพนักงานประจำที่ทำงานอยู่ในสำนักงานซึ่งจะต้องถูกปลดออกเป็นจำนวนมากในครั้งนี้จะอยู่ในทุกแผนกเช่นฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ฝ่ายสื่อสารองค์กร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลฝ่ายบัญชีและการเงิน ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายตรวจสอบภายใน และฝ่ายธุรการ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือซีเอฟโอ วอลโว่ คาร์ส นายเฟรดริก แฮนสัน เปิดเผยว่าการปลดพนักงาน ประจำในสำนักงานทั่วโลกครั้งนี้ จะมีส่วนใหญ่ที่ต้องตกงานในสำนักงานที่เมืองโกเธนเบิร์ก ในสวีเดน

สถานการณ์ของวอลโว่ คาร์ส เมื่อเปรียบเทียบกับค่ายรถยนต์แบรนด์อื่นๆ ที่เป็นระดับชั้นนำของโลก จะพบว่า วอลโว่ตกอยู่ในสถานะยากลำบากอย่างมาก สาเหตุจาก วอลโว่ คาร์ส ล้วนมีโรงงานที่ผลิตรถยนต์อยู่ในทวีปยุโรป และประเทศจีนเป็นจำนวนมาก ในขณะนี้จีนถูกการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแม้ว่าจะอยู่ในระดับ 30% เป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 8 กรกฎาคมในขณะเดียวกันประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเตรียมที่จะเก็บภาษีสูงถึง 50% กับกลุ่มสหภาพยุโรปโดยเลื่อนเวลาเส้นตายไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ประกาศใช้มาตรการเก็บภาษีรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ไม่ได้ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาบังคับใช้กับทุกประเทศทั่วโลกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมโดยมีอัตราการจัดเก็บสูงถึง 25%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles