นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 36.96 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.85-37.10 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 36.91-37.00 บาทต่อดอลลาร์) เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ อาทิ ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ช่วงเย็นวันพฤหัสฯ นี้ และอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
ขณะที่เงินดอลลาร์โดยรวมก็แกว่งตัว sideways หลังถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดก็ไม่ได้การส่งสัญญาณใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยส่วนใหญ่ยังคงมุมมองเดิมว่า เฟดยังไม่รีบลดดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจแนวโน้มเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้ไปเรียบร้อยแล้ว (fully priced-in) ทั้งนี้ เงินบาทอาจผันผวนไปตามโฟลว์ธุรกรรมทองคำบ้าง หลังราคาทองคำมีทั้งจังหวะปรับตัวลดลงทดสอบโซนแนวรับและจังหวะรีบาวด์ขึ้นทดสอบโซนแนวต้านระยะสั้น
แนวโน้มค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทก็อาจยังคงแกว่งตัว sideways ใกล้ระดับ 37.00 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากเงินดอลลาร์ก็ยังไม่มีปัจจัยหนุนการแข็งค่าที่ชัดเจน โดยผู้เล่นในตลาดอาจรอลุ้นผลการประชุม BOE และอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ก่อน ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่ายังพอมีอยู่ ทั้ง โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะปรับฐาน (ล่าสุดราคาทองคำก็แกว่งตัวใกล้โซนแนวรับ)
ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทก็อาจยังพอมีแนวต้านระยะสั้น แถวโซน 37.00-37.10 บาทต่อดอลลาร์ ตามแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน อีกทั้ง เราเริ่มเห็นสัญญาณการทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะบอนด์ระยะยาว จากฝั่งนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น หลังจากบอนด์ยีลด์ไทยได้ปรับตัวขึ้นมาพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในช่วงเวลาราว 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เพราะหาก BOE ส่งสัญญาณพร้อมทยอยลดดอกเบี้ย ได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด (ตลาดมอง BOE จะเริ่มลดดอกเบี้ยในไตรมาสที่ 3) ก็อาจกดดันให้เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ผันผวนอ่อนค่าลง ซึ่งในเชิงเทคนิคัล สัญญาณจาก RSI และ MACD ต่างชี้ว่า โมเมนตัมการรีบาวด์แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของเงินปอนด์อังกฤษ ได้แผ่วลง และเสี่ยงที่จะย่อตัวลงได้ไม่ยาก ซึ่งภาพดังกล่าวจะยิ่งหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้