นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 36.74 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 36.69 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 36.40-37.25 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.65-36.85 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ ที่ผ่านมา เงินบาทแกว่งตัว sideways (แกว่งตัวในกรอบ 36.67-36.77 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำและการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ หลังอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายน ชะลอตัวลงตามคาด
อย่างไรก็ดี แม้ว่าในช่วงหลังตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงบ้าง แต่เงินบาทก็เผชิญแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงตามการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ สู่ระดับ 4.40% ซึ่งได้แรงหนุนจากรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) เดือนมิถุนายน ที่ออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้า
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าแม้จะชะลอลง แต่ยังคงอยู่ ทำให้เงินบาทเสี่ยงผันผวนอ่อนค่าทดสอบแนวต้านแรกแถว 37 บาทต่อดอลลาร์ได้ ในกรณีที่ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อ ซึ่งจะยิ่งกดดันเงินบาทเพิ่มเติมผ่านการย่อตัวลงของราคาทองคำ นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงทิศทางเงินหยวนจีน (CNY) ที่มีผลต่อเงินบาทในช่วงนี้
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น อาจแข็งค่าขึ้นได้ในช่วงต้นสัปดาห์ หากตลาดกังวลผลการเลือกตั้งฝรั่งเศสจนกดดันให้เงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลง แต่หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สะท้อนภาพการชะลอตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น หรือ ออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้บ้าง
สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้เงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นตามการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น แต่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาผสมผสานได้ช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ส่วนสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรจับตาผลการเลือกตั้งสภาฝรั่งเศสรอบแรกและการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ รวมถึงรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ที่อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินได้