ค่าเงินบาทเปิดแข็งค่า หลังตลาดมองเฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้งได้ในปีนี้บอนด์ยีลด์ร่วง แรงขายทำกำไรทอง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาท วันนี้ เปิดที่ระดับ 36.09 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.27 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.00-36.25 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ 

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในช่วง 36.05-36.32 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการปรับตัวลดลงราว -10bps ของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ ออกมา +3.0%y/y (-0.1%m/m) ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ก็ชะลอลงต่อเนื่องสู่ระดับ 3.3% (+0.1%m/m) ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า เฟดก็มีโอกาสราว 44% ที่จะลดดอกเบี้ย “3” ครั้งในปีนี้ จากเดิมที่ตลาดเคยมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในช่วงก่อนรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI

นอกจากนี้ เงินบาทยังพอได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ (XAUUSD) ทะลุระดับ 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง ซึ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท

สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า การแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทในช่วงหลังรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ล่าสุด อาจชะลอลงบ้าง เนื่องจากเงินบาทได้แข็งค่าขึ้นเข้าใกล้โซนแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แถว 36.10 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งที่ผ่านมาเงินบาทก็ยังไม่สามารถหลุดจากโซนแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ได้อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง ทำให้เราประเมินว่า เงินบาทก็อาจแกว่งตัวแถวเส้นค่าเฉลี่ยดังกล่าวไปก่อน จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ที่ทำให้ตลาดมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งในปีนี้ (อาจต้องรอช่วงปลายเดือน)

นอกจากนี้  เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันบ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์จากฝั่งผู้นำเข้า และโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินเยนญี่ปุ่น (JPYTHB) หลังเงินเยนเริ่มมีทิศทางแข็งค่าขึ้น อีกทั้งควรระวังแรงขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ หากตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยง ส่วนบอนด์ยีลด์ก็อาจปรับตัวลดลง ตามบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทำให้ผู้เล่นต่างชาติอาจทยอยขายทำกำไรสถานะการลงทุนในสินทรัพย์ไทยได้ 

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles