กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่าสิ้นสุดปี 2024 ผ่านไปประเทศไทยมียอดขายรถยนต์ในประเทศรวมกันทั้งสิ้น 572,675 คัน ดำดิ่งลงมากถึง -26.2% เมื่อเทียบกับปี 2023 ส่งผลให้กลายเป็นยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยที่เลวร้ายหนักมากที่สุดในรอบ 15 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ซึ่งในปีดังกล่าวประเทศไทยมียอดขายรถยนต์ทั้งสิ้น 548,000 คัน หากพิจารณาเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 พบว่าประเทศไทยมียอดขายรถยนต์ในประเทศร่วงลงอย่างหนัก เหลือเพียง 134,016 คัน ดำดิ่งมากถึง -29.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สี่ในปี 2023
ในทางตรงกันข้าม สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งชาติประเทศมาเลเซีย หรือ MAA เปิดเผยว่าในปี 2024 ผ่านไปประเทศมาเลเซียมียอดขายรถยนต์ภายในประเทศพุ่งสูงสะสมรวมกันแตะ 816,747 คัน เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับปี 2023 แต่กลับส่งผลให้ประเทศมาเลเซียมียอดขายรถยนต์ในประเทศเกินกว่า 800,000 คันเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ยังทำให้ประเทศมาเลเซียกลายเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศอาเซียนแทนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกิดขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 จนถึงในปีผ่านไป ปัจจัยบวกที่ทำให้ตลาดรถยนต์ภายในประเทศมาเลเซียมีการเติบโตได้อย่างน่าทึ่งเป็นผลมาจาก การบริโภคภาคเอกชนและกำลังการใช้จ่ายหรือกำลังซื้อของประชาชนมาเลเซียมีความแข็งแกร่ง ภาวะการว่างงานในประเทศมาเลเซียทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3.2% ส่งผลให้ประชาชนชาวมาเลเซียมีงานทำเป็นจำนวนมาก อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางมาเลเซียอยู่ในระดับ 3% ซึ่งทรงตัวมาตลอดนับตั้งแต่พฤษภาคมปี 2023 ทำให้ต้นทุนการเงิน อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง และสภาวะทางสังคมและการเมืองในประเทศมาเลเซียมีเสถียรภาพ
สำหรับประเทศเวียดนามในปี 2024 ผ่านไป พบว่าตลาดรถยนต์ภายในประเทศดังกล่าว มียอดขายสะสมรวมกันที่ 340,000 คัน พุ่งสูงขึ้นถึง 13% เมื่อเทียบกับปี 2023 ในขณะที่ยอดขายของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีของประเทศเวียดนามที่รู้จักกันดีในชื่อวินฟาสท์ มียอดขายรวมในปี 2024 ที่ 87,000 คัน ดังนั้นเมื่อรวมทั้งสองยอดขายเข้าด้วยกันทำให้ประเทศเวียดนามมียอดขายรถยนต์รวมสุทธิเป็น 420,000 คันในปีผ่านไป ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ดับประเทศเวียดนามเข้าใกล้ยอดขายรถยนต์ในประเทศฟิลิปปินส์
ภาวะยอดขายรถยนต์ในประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี 2024 ตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกันกับยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย ไกคินโด หรือสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งชาติประเทศอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่อันดับ 1 ในอาเซียนแห่งนี้มียอดขายรวมกันทั้งสิ้น 865,723 คัน ทรุดต่ำลง -13% เทียบกับปี 2023 ทำให้ตลาดรถยนต์ประเทศอินโดนีเซียมียอดขายลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สาเหตุจากธนาคารกลางอินโดนีเซียใช้มาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ท่ามกลางค่าเงินรูปดอกเบี้ยอินโดนีเซียเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงในปีผ่านไป ด้านผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียปรับพฤติกรรมในการใช้รถยนต์คันเดิมต่อไปมากกว่าที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่ นอกจากนี้ จำนวนประชากรชนชั้นกลางในประเทศอินโดนีเซียมีจำนวนลดลงมาอยู่ที่ 17.1% เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขดังกล่าวในปี 2023 ซึ่งมีจำนวนคนชั้นกลางอยู่ที่ 21.4% ในปี 2019 ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเกิดลดต่ำลงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อในกลุ่มคนชนชั้นกลางของอินโดนีเซีย