สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนประกาศลดภาษีสำหรับการซื้อบ้าน โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงราคาบ้านที่กำลังตกต่ำและส่งเสริมการทำธุรกรรมซื้อขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นตัวขึ้น
โดยกระทรวงการคลังจีน ออกแถลงการณ์ว่ารัฐบาลจีนปรับลดภาษีการโอน (deed tax) ลงเหลือเพียง 1% จากระดับปัจจุบันที่สูงถึง 3% สำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่เป็นแฟลตหลังแรกและที่สองขนาดไม่เกิน 140 ตารางเมตร โดยนโยบายดังกล่าวจะช่วยลดต้นทุนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองขนาดใหญ่ของจีน เช่น ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งนโยบายใหม่นี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้เป็นต้นไป
สำหรับ มาตรการดังกล่าวซึ่งหลัน ฝออัน รัฐมนตรีคลังของจีน ได้ส่งสัญญาณเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พ.ย.) นั้น สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลจีนมีความตั้งใจที่จะใช้เครื่องมือด้านการคลังเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ซบเซา ควบคู่ไปกับการผ่อนคลายทางการเงิน โดยรัฐมนตรีคลังของจีนให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายการคลังที่ “แข็งแกร่งมากขึ้น” ในปีหน้า หลังจากที่เปิดเผยแผนการสว็อปหนี้สำหรับรัฐบาลท้องถิ่นในวงเงิน 10 ล้านล้านหยวน (1.4 ล้านล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นสัญญาณว่าจีนจะใช้นโยบายที่แข็งแกร่งมากขึ้นหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง
เรย์มอนด์ เฉิง หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์จากบริษัทซีจีเอส อินเตอร์เนชันแนล ซิเคียวริตีส์ในฮ่องกง กล่าวว่า เมื่อมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ก็จะช่วยลดต้นทุนการซื้อบ้านและช่วยกระตุ้นยอดขายอสังหาริมทรัพย์ของจีน
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปลายเดือนก.ย. ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย การเพิ่มสภาพคล่องในระบบธนาคาร รวมทั้งการฟื้นฟูตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ต่างเรียกร้องให้จีนออกมาตรการสนับสนุนด้านการคลังเพิ่มเติม เพื่อให้จีนบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ