ชาร์ปถอดใจเลิกผลิตจอภาพโทรทัศน์แอลซีดีในโรงงานอายุ 15 ปีที่ญี่ปุ่น ขาดทุนพุ่งกว่า 44,000 ล้าน

122
0
Share:
ชาร์ป ถอดใจเลิกผลิต จอภาพ โทรทัศน์ แอลซีดี ในโรงงานอายุ 15 ปีที่ญี่ปุ่น ขาดทุนพุ่งกว่า 44,000 ล้าน

ชาร์ป (Sharp) ประกาศยุติการผลิตจอภาพแอลซีดี (LCD) ภายในสิ้นเดือนกันยายนนึ้ที่โรงงานชาร์ปในเมืองซาไก โอซากา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโรงงานดังกล่าวเป็นบริษัทในเครือของชาร์ปมีชื่อว่า ซาไก ดิสเพลย์ โปรดักส์ หรือเอสดีพี ผลิตจอภาพแอลซีดีใช้ในการประกอบกับโทรทัศน์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ที่ต้องใช้จอภาพแอลซีดีในสินค้าอื่นๆ

โรงงานเอสดีพีแห่งนี้เป็นโรงงานที่ผลิตจอภาพแอลซีดีสำหรับโทรทัศน์ การยุติการผลิตอย่างถาวรส่งผลให้ญี่ปุ่นไม่มีกำลังการผลิตจอภาพขนาดใหญ่อีกต่อไป นอกจากนี้ ชาร์ปได้ตัดสินใจตัดขายธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยี รวมทั้งธุรกิจผลิตชิ้นส่วนกล่องที่ใช้ในสมาร์ทโฟน และธุรกิจผลิตเซมมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในจอภาพ

สาเหตุจากตลาดจอภาพโทรทัศน์ระบบแอลซีดีชะลอตัว และตกต่ำต่อเนื่องในหลายปีผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนผ่านตลาดจอภาพโทรทัศน์แอลซีดี (LED) มาเป็นจอภาพระบบโอแอลอีดี (OLED) ซึ่งใช้ในการผลิตจอสมาร์ทโฟน และแท็ปเล็ต โดยเฉพาะในรุ่นพรีเมี่ยม ทำให้ตลาดจอภาพแอลซีดีทรุดต่ำลง สงครามลดราคาโทรทัศน์เกิดขึ้นรุนแรงระหว่างแบรนด์โทรทัศน์จีนและเกาหลีใต้ ซึ่งกระทบถึงแบรนด์โทรทัศน์ญี่ปุ่น ทำให้ชาร์ปต้องตัดลดค่าใช้จ่ายในหน่วยธุรกิจดังกล่าว การยุติผลิตในครั้งนี้ ชาร์ปกำลังพิจารณาจะโยกย้ายพนักงานสายวิศวกรของบริษัทในเครือมีชื่อว่าชาร์ป ดิสเพลย์ เทคโนโลยี ไปยังบริษัทผลิตไมโครชิปแห่งใหม่ที่อยู่ในเครือของกลุ่มโซนี่ กรุ๊ป ซึ่งมีการผลิตจอภาพขนาดเล็กและขนาดกลางสำหรับสมาร์ทโฟน

โรงงานเอสดีพีในเครือของบริษัทชาร์ปมีอายุมาถึง 15 ปี ด้วยการลงทุนมูลค่าราว 430,000 ล้านเยน หรือ 2,700 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 99,900 ล้านบาท ในช่วงกว่าทศวรรษผ่านมา ชาร์ปเผชิญกับผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่โดยเฉพาะสถานะการเงินในช่วงระหว่าง ปี 2012 ถึง 2016 ซึ่งมีสาเหตุมาจากบริษัทเอสดีพีมีผลประกอบการที่เลวร้าย ผลการดำเนินงานสิ้นสุดปีงบประมาณในเดือนมีนาคมที่ผ่านไป พบว่าบริษัทเอสดีพีมีผลขาดทุนในธุรกิจจอภาพแอลซีดีสูงถึง 188,400 ล้านเยน หรือ 44,274 ล้านบาท

กลุ่มธุรกิจจอภาพแอลซีดีของบริษัทชาร์ปมีผลประกอบการขาดทุนจากการดำเนินงานในช่วงระหว่าง เดือนเมษายนถึงเดือนธันวาคมในปีผ่านมาสูงถึง 49,400 ล้านเยน หรือกว่า 11,609 ล้านบาท ซึ่งเลวร้ายกว่าในช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้านั้นที่มีผลขาดทุน 22,100 ล้านเยน หรือกว่า 5,194 ล้านบาท ชาร์ป เปิดเผยต่อไปว่าจะปรับโครงสร้างธุรกิจและหันไปเน้นในตลาดพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ

ทั้งนี้ ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ซึ่ง เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ซัพพลายเออร์ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเซมิคอนดักเตอร์ชื่อดังระดับโลกให้กับ แอปเปิล อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งอยู่ในไต้หวัน และยังเป็นบริษัทแม่ของชาร์ป ได้ประกาศเข้าดำเนินกิจการโรงงานดังกล่าวต่อเนื่องโดยเปลี่ยนไปเป็นศูนย์เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือศูนย์ข้อมูลเอไอของฟ็อกซ์คอนน์