ซาอุดิอาระเบียลดราคาขายน้ำมันดิบในเอเชียมากสุดใน 2 ปีกว่า ฉุดราคาน้ำมันดิบในเอเชียร่วงกว่า 2 ดอลลาร์ หลุด 60 ดอลลาร์ครั้งแรกในปีนี้ สัปดาห์ผ่านไปราคาน้ำมันดิบโลกดำดิ่ง 2 วันติดกันหายไปกว่า 9 ดอลลาร์หรือ -14% จีนขึ้นภาษี 34% สู้สหรัฐ น้ำมันในไทยถูกสุดใน 3 ปี 2 เดือน ทรงตัววันที่ 4 ติดกัน

ซาอุดิอาระเบียลดราคาขาย น้ำมันดิบในเอเชีย มากสุดใน 2 ปีกว่า ฉุดราคาน้ำมันดิบในเอเชียร่วงกว่า 2 ดอลลาร์ หลุด 60 ดอลลาร์ครั้งแรกในปีนี้ สัปดาห์ผ่านไปราคาน้ำมันดิบโลกดำดิ่ง 2 วันติดกันหายไปกว่า 9 ดอลลาร์หรือ -14% จีนขึ้นภาษี 34% สู้สหรัฐ น้ำมันในไทยถูกสุดใน 3 ปี 2 เดือน ทรงตัววันที่ 4 ติดกัน

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบในเอเชียที่สิงคโปร์ รายงานว่า วันนี้ 7 เมษายน 2025 เมื่อเวลา 7.35 น. หรือตรงกับเวลา 6.35 น. ตามเวลาไทย พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ เคลื่อนไหวที่ 61.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.4% สอดรับกับราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ เคลื่อนไหวที่ 63.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.3% ทั้งหมดเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายนผ่านไป ที่สำคัญ ราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ในขณะนี้ทำสถิติราคาน้ำมันดิบต่ำสุดในรอบ 4 ปีด้วย

สาเหตุจากรัฐวิสาหกิจพลังงานใหญ่ที่สุดในซาอุดิอาระเบีย อารามโก (Aramaco) ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบใหญ่ที่สุดของกลุ่มโอเปกพลัส ได้ประกาศลดราคาน้ำมันดิบประเภทเบา หรือ Light Crude Oil ที่ขายในตลาดเอเชียลงมากถึง 2.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทำสถิติลดราคาขายให้เอเชียมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปีที่ผ่านมา การตัดสินใจดังกล่าวของซาอุดิอาระเบียมีขึ้นหลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสได้มีมติปรับเพิ่มขึ้นกำลังการผลิตขึ้นมาถึงวันละกว่า 411,000 บาร์เรล โดยมีผลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไปนับเป็นการสร้างความประหลาดใจและเกินความคาดหมายของตลาดน้ำมันดิบโลก นอกจากนี้ สถานการณ์สงครามภาษีทั่วโลกซึ่งนำโดยประเทศจีนได้ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าสารทุกชนิดสูงถึง 34% และมีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนนี้เป็นต้นไปทำให้คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงกระทบถึงความต้องการใช้น้ำมันดิบลดลง

ย้อนกลับไปที่ตลาดนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 4 เมษายน 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 61.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -4.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -7.4% ส่งผลราคาปิดดิ่งลงรวม 2 วันติดกัน -9.72 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -14.04% ขณะที่มีราคาดิ่งต่ำสุดระหว่างวันแตะที่ระดับ 60.45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาต่ำสุดระหว่างวันในรอบ 4 ปี ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดี 3 เมษายน ราคาปิดดิ่งลง -6.64% ทำสถิติเป็นราคาปิดน้ำมันดิบในแง่เปอร์เซ็นต์ที่ดำดิ่งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2022 หรือในรอบ 2 ปี 7 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 65.58 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -4.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -6.5% ทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน หรือตั้งแต่สิงหาคม 2021 ส่งผลราคาปิดดิ่งลงรวม 2 วันติดกัน -9.37 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -12.92% ขณะที่มีราคาดิ่งต่ำสุดระหว่างวันแตะที่ระดับ 64.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาต่ำสุดระหว่างวันในรอบ 4 ปี ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดี 3 เมษายน ราคาปิดดิ่งลง -6.42% ทำสถิติเป็นราคาปิดน้ำมันดิบในแง่เปอร์เซ็นต์ที่ดำดิ่งเลวร้ายที่สุดตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2022 หรือในรอบ 2 ปี 8 เดือน หลังจากเมื่อวันพุธผ่านมา เป็นราคาปิดน้ำมันดิบที่สูงสุดตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ หรือในรอบ 5 สัปดาห์

ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 ตลาดโลกปิดดำดิ่ง -10.6% และ -10.9% ตามลำดับ ทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดำดิ่งเลวร้ายสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง หรือตั้งแต่กลางปี 2023 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ติดต่อกัน

สาเหตุจากกระทรวงคลังจีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้ถึง 34% กับสินค้าทุกชนิดจากสหรัฐ และจำกัดการทำธุรกิจนำเข้าส่งออก 11 บริษัทของสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจัดเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs กับ 185 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ 10% ถึง 50% มีผลในวันที่ 5 เมษายนเป็นต้นไป ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งอัตราเก็บภาษีดังกล่าวสูงเกินคาดหมายมากกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่หลายแห่งของโลก ธนาคารเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยในปีนี้เป็น 60% จากเดิมที่ 40% หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprosal Tariffs กับทั่วโลก

ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 4 เมษายน นี้ โดยลดราคาทุกชนิดลง 50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 5 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 เป็นต้นมา ส่งผลเป็นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและกลุ่มแก๊สโซฮอลล์มีราคาขายถูกสุดใน 3 ปี 2 เดือนกว่า หรือตั้งแต่ 25 มกราคม 2565 และน้ำมันดีเซลมีราคาขายถูกสุดใน 10 เดือน หรือตั้งแต่ 17 พฤษภาคม 2567

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles