ซีพี แอ็กซ์ตร้า โชว์ผลดำเนินงานแม็คโคร-โลตัส  9 เดือน ทำรายได้รวมกว่า 3.7 แสนล้าน กำไร 6.6 พันล้านบาท 

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก  แม็คโคร โลตัส เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 ทำรายได้รวม 124,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% โดยมีกำไรสุทธิ 1,952 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16.4%

ขณะที่กำไรสุทธิหลังการปรับปรุงรายการอยู่ที่ 2,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลมาจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตขึ้นทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด การขายนอกร้าน พร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้า (“Omni Channel”) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วน 19% ของยอดขายรวม ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ ส่งผลให้ใน 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 378,416 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,609 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.7% และ 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง คือการเดินหน้าขยายสาขา 43 แห่ง พร้อมปรับโฉมสาขา และพัฒนามอลล์อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความสำเร็จจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่ตั้งไว้

สำหรับแนวทางการเติบโตในไตรมาส 4/2567 นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์สำคัญได้แก่

1.การเพิ่มความแข็งแกร่งกลุ่มสินค้าอาหารสด ผ่านการผนึกกำลังสรรหาสินค้า เพื่อสร้างความแตกต่าง และความหลากหลาย ในราคาที่คุ้มค่า พัฒนาต่อยอดอาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน เบเกอรี่ และสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท (Private Label) ซึ่งส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น

2.การพัฒนาทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และการส่งสินค้าถึงลูกค้า จากการขยายพื้นที่ให้บริการ โดยใช้จุดแข็งของเครือข่ายสาขาทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 2,600 สาขาทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาทีมขายนอกร้าน เพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น

3.การขยายสาขา ปรับโฉมสาขาและพัฒนามอลล์ สู่การเป็นศูนย์กลางชุมชน ที่รองรับการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย ล่าสุด บริษัทได้เปิดโลตัส สาขายะลา ซึ่งเป็นสาขารูปแบบ hypermarket แห่งแรกของบริษัทใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมขยายสาขารูปแบบ Hybrid ที่รวมทั้งค้าปลีกและค้าส่งไว้ในที่เดียว ได้แก่ แม็คโคร-โลตัสมอลล์ สาขาชัยนาท และสาขาถนนศรีอยุธยา รวมถึงการปรับโฉมสาขา เพื่อตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์การจับจ่ายที่เหนือกว่า ให้กับลูกค้าและผู้ประกอบการอย่างลงตัว

ด้วยกลยุทธ์ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจโฮเรก้า รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ คาดว่าจะส่งผลบวกต่อการเติบโตของบริษัทฯ ด้วย

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติในหลายสาขา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเคียงข้างสังคมไทย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี ได้แก่ รางวัลจากเวที IAA Awards for Listed Companies 2024 สาขา Outstanding CEO, Outstanding CFO และ Outstanding IR รวมถึงรางวัล MEA ENERGY AWARDS ปีที่ 7 จากการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ประเภทอาคารประหยัดพลังงาน กลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ แสดงให้เห็นถึงการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles