นายโอลิเวอร์ บลูเม ประธานเจ้าที่บริการ หรือซีอีโอ ปอร์เช่ เอจี (Porsche) แบรนด์ขายรถยนต์ระดับซุปเปอร์คาร์หรูหราของโลกและอยู่ในเครือโฟล์คสวาเกน เอจี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งในทวีปยุโรป และในประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ธุรกิจรถปอร์เช่ซึ่งเป็นไปในทางที่ดีมาหลายทศวรรษผ่านมา กลับไม่สามารถไปได้อีกในรูปแบบปัจจุบัน ดังนั้น ได้เริ่มการเจรจาลดจำนวนพนักงานใช่วงครึ่งปีหลังนี้กับทั้งพนักงานที่บริษัทจ้างโดยตรง และสหภาพแรงงานที่ซัพพลายพนักงานมาทำงานกับปอร์เช่ เป็นการย้ำถึงฝ่ายบริหารที่จำเป็นต้องตัดลดค่าใช้จ่าย เพื่อเป้าหมายสำคัญที่สุดในการประหยัดค่าใช้จ่ายตามที่ได้ประกาศเป็นนโยบายชัดเจนตั้งแต่ต้นปี 2025 นี้
สาเหตุที่ปอร์เช่ ดำเนินการตัดลดค่าใช้จ่ายโดยการลดและปลดพนักงาน อย่างต่อเนื่องช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ระดับหรูหรา รวมถึงตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีชะลอตัวต่อเนื่องและไม่มีสัญญาณที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนแต่อย่างใด สงครามลดราคาที่กลายเป็นวิกฤติซ้ำเติมภาวะชะลอตัวของตลาดโลกยนต์ในจีนแผ่นดินใหญ่
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการภาษีหลายรูปแบบที่มีอัตราการเก็บเพิ่มสูงขึ้นทั้งภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs และภาษีเฉพาะรายอุตสาหกรรมและสินค้า ได้แก่ ภาษีนำเข้าเหล็ก อลูมิเนียม รถยนต์ และชิ้นส่วนรถยนต์ ส่งผลกระทบต่อตลาดรถซุปเปอร์คาร์ของปอร์เช่ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และพึ่งการนำเข้า 100% จากต่างประเทศ
ซีอีโอ ปอร์เช่ เอจี (Porsche) กล่าวต่อไปว่า ปัจจัยลบทั้ง 2 อย่างทั้งหมดนี้ ไม่เพียงผลกระทบต่อปอร์เช่อย่างมาก แต่ยังส่งผลกระทบกับปอร์เช่มากกว่าค่ายผู้ผลิตรถยนต์อื่นๆ จากทั่วโลก ความสามารถในการทำกำไรของปอร์เช่ในไตรมาสที่ 1 ลดลงเหลือเพียง 8.6% เส้นเป้าหมายที่พยามรักษาไว้ที่ 15 ถึง 17% ในช่วงระยะกลาง สำหรับเป้าหมายในการกำหนดพนักงานของปอเช่นั้นกำหนดไว้ว่าจะต้องปรับลดพนักงานลงถึง 15% ภายในปี 2029
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2025 ผ่านไป ปอร์เช่ เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 1,900 คน หรือคิดเป็น 15% ของพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน โดยจะมีผลตั้งแต่ปีนี้ไปจนกระทั่งสิ้นสุดปี 2029 หลังจากการปรับลด และปลดพนักงานในรอบแรกยังไม่เพียงพอที่จะตัดลดค่าใช้จ่ายตามเป้าหมายได้
นโยบายการปลดลดพนักงานของปอร์เช่จะเน้นไปยังพนักงานที่ทำงานอยู่ในประเทศเยอรมนีโดยเฉพาะในโรงงานที่ตั้งอยู่ทาง ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นเป้าหมายหลัก การปลดพนักงานของค่ายรถยนต์ปอร์เชในรอบแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 2,000 คน จะประกอบไปด้วยการไม่ต่อสัญญาว่าจ้างพนักงานจำนวน 1,500 คน ซึ่งครบกำหนดสิ้นสุดสัญญาลง ในขณะที่มีพนักงานอีกจำนวน 500 คน ที่สัญญากำลังใกล้จะหมดลงในเร็วๆ นี้