นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ยอดการผลิตทั้งปี 66 อยู่ที่ 1,841,663 คัน ลดลงจากปีที่แล้ว ร้อยละ 2.22 โดยในเดือนธันวาคมลดลงหนักถึงร้อยละ 15.75 เป็นผลจากการผลิตขายในประเทศลดลงถึงร้อยละ 29.94 โดยเฉพาะรถกระบะที่ผลิตลดลงถึงร้อยละ 41.30 ซึ่งเป็นผลจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะ เพราะหนี้ครัวเรือนสูง และอีกส่วนหนึ่งมาจากรถยนต์ไฟฟ้า โดยมียอดจดทะเบียนถึง 75,690 คัน
แต่ในแง่การผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก กลับโตขึ้นถึงร้อยละ 11.44 ตามยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.30 สูงกว่าการส่งออกในปี 62 ก่อนเกิดโควิด และสูงสุดในรอบ 5 ปี
ขณะที่ในปีนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าจะผลิตได้ 1 ล้าน 9 แสนคัน มากกว่าปีที่แล้วร้อยละ 3.17 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 1 ล้าน 150,000 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 750,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 9.39 แต่ยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบ ทั้ง หนี้ครัวเรือนสูง ค่าครองชีพสูง อัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อของประชาชนลดลง