รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยรายงานการทบทวนคาดการณ์มูลค่าความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงที่ 7.0 แมกนิทูดขึ้นไปของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยปรับลดคาดการณ์มูลค่าความเสียหายในภาพรวมที่จะเกิดขึ้นกับกรุงโตเกียวจากเดิมจะมีสูงถึง 95 ล้านล้านเยน หรือกว่า 19 ล้านล้านบาท ลงมาอยู่ที่ 83 ล้านล้านเยน หรือกว่า 17 ล้านล้านบาท โดยลดลงประมาณ 2 ล้านล้านบาท หรือ -12.6% จากคาดการณ์เดิมในปี 2013 ผ่านมา
สอดรับกับการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ของประชาชนที่จะเสียชีวิตในกรุงโตเกียวลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 18,000 คน จากเดิมเมื่อปี 2013 คาดการณ์ว่าจะประชาชนเสียชีวิตในกรุงโตเกียวสูงถึง 23,000 คน ลดลง 5,000 คน หรือลดลงมากถึง -22% จากเดิม นอกจากนี้ แผ่นดินไหวขนาดรุนแรงที่เข้าข่ายเรียกว่าเมกะเควค ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในกรุงโตเกียวนั้น จะส่งผลให้ตึกหรืออาคารเกิดความเสียหายราบคาบประมาณ 400,000 อาคาร ตัวเลขดังกล่าวลดลงจากเดิมราว 210,000 อาคาร หรือลดลงมากถึง -34% จากที่คาดการณ์ในปี 2013 ว่าจะมีจำนวนที่อยู่อาศัยเสียหายอย่างสิ้นเชิงประมาณ 610,000 อาคาร
นอกจากนี้ยังได้ปรับตัวเลขคาดการณ์จำนวนประชาชนที่จะไม่มีที่อยู่อาศัยจากเหตุแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงลงมาอยู่ที่ 4.8 ล้านคน จากเดิมในปี 2013 ที่คาดว่าจะมีสูงถึงกว่า 7.2 ล้านคน ลดลงมากถึง 2.4 ล้านคน หรือลดลงมากถึง -33% จากเดิม สอดคล้องกับตัวเลขการขาดแคลนอาหารที่จะมีขึ้นในศูนย์ผู้อพยพจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ลดลงจากเดิมในปี 2013 ที่คาดว่า จะอยู่สูงถึง 34 ล้านมื้อต่อสัปดาห์ มาเป็น 13 ล้านมื้อต่อสัปดาห์ ลดลงมากถึง 21 ล้านมื้อต่อสัปดาห์ หรือลดลงมากถึง -62% จากเดิม
สาเหตุมาจาก มีความคืบหน้าอย่างมากในการปรับปรุงการก่อสร้างที่เกี่ยวกับโครงสร้างของที่อยู่อาศัยต่างๆ รวมถึง การปรับปรุงระบบความปลอดภัย ในการต้านทานภาวะสั่นไหวเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว การคาดการณ์ใหม่ในปีนี้ ยังเป็นผลมาจากการปรับปรุงอาคารเก่าให้สามารถรองรับแรงสั่นไหวรวมถึงโครงการการจัดแบ่งพื้นที่ใหม่ ที่สามารถกระจายจำนวนอาคารที่ก่อสร้างด้วยไม้ที่มีความอัดแน่น เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้สามารถรองรับจํานวนคนมากขึ้นที่อยู่ในที่อยู่อาศัยได้ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว
อย่างไรก็ตามหากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงดังกล่าวจะส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานหลักสำคัญ ได้แก่ ไฟฟ้า และน้ำเสีย ซึ่งสินค้าปลาจะได้รับความเสียหายอย่างมาก ข้อมูลดังกล่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า พื้นที่ในกรุงโตเกียวที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือไฟดับเป็นวงกว้างเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในปี 2013 ที่คาดว่าจะมีพื้นที่ทั้งหมด 12 ล้านจุด ขึ้นมาเป็น 16 ล้านจุด เพิ่มขึ้น 4 ล้านจุด หรือ เพิ่มขึ้น 33% สาเหตุมาจากจำนวนประชากร(รวมชาวต่างชาติ)ในกรุงโตเกียวเพิ่มสูงมากขึ้น และมีอัตราความหนาแน่นของจำนวนประชากรต่อพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีเป็นจำนวนมาก
สำหรับการเข้าถึงระบบบําบัดน้ําเสียในกรุงโตเกียวนั้น รายงานดังกล่าวได้มีการปรับปรุงตัวเลขด้วยการเพิ่มจำนวนประชากรที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ขึ้นเป็นประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งสูงกว่า 1.5 ล้านคนจากการคาดการณ์เดิมเมื่อปี 2013 เพิ่มขึ้น 500,000 คน หรือราว 33% สาเหตุจากปัจจัยที่ไม่ได้พิจารณาในการประมาณการก่อนหน้านี้ เช่น การปิดโรงบําบัดน้ําเนื่องจากไฟฟ้าดับ
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 เมษายนผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยผลการศึกษาการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มโหฬารในประเทศญี่ปุ่น ที่มีความรุนแรงใหญ่โตวัดได้สูงถึง 9 แมกนิทูด หรือเมกะเควก หากพิจารณาในกรณีที่เลวร้ายที่สุดจะพบว่าพลังทำลายล้างของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มโหฬารจะทำลายเศรษฐกิจมีมูลค่าสูงถึง 270.3 ล้านล้านเยน หรือ 1.81 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 62 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเกือบถึง 50% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของขนาดเศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน โดยตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจดังกล่าวถูกปรับเพิ่มขึ้นจากการศึกษาในครั้งที่ผ่านมาที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 214.2 ล้านล้านเยน หรือกว่า 50 ล้านล้านบาท
