ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงระนาวกว่า 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหลุด 78 ดอลลาร์

185
0
Share:
ดัชนี หุ้น ดาวโจนส์ ปิดร่วงระนาวกว่า 200 จุด น้ำมันดิบโลกปิดร่วงหลุด 78 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2023 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 33,301 จุด -228 จุด หรือ -0.68% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,055 จุด -15 จุด หรือ -0.38% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,854 จุด +55 จุด หรือ +0.47%

สาเหตุจากนักลงทุนกังวลกับภาคธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกาครั้งใหม่ หลังจากธนาคารเฟิร์สท รีพับลิก แบงก์ เปิดเผยว่าเงินฝากของธนาคารในไตรมาสที่ 1 ลดต่ำลงมาเหลือเพียง 104,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.66 ล้านล้านบาท หรือลดลงมากถึง 40% การเปิดเผยผลการดำเนินงานดังกล่าว อาจสะท้อนถึงความเปราะบางของสถานะธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกายังคงมีอยู่หลังจากวิกฤตธนาคารเอสวีบี และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ ล่มสลายเมื่อกว่าเดือนผ่านมา

นอกจากนี้ ตลาดยังคงเฝ้าติดตามธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะมีการประชุมดอกเบี้ยระยะสั้นอีกภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า คือวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 74.30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -2.77 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.6% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดในเดือนเมษายน รวม 2 วันติดกัน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากถึง -4.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -5.8%

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 77.69 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.08 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.8% ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดต่ำสุดตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม หรือในรอบเกือบ 1 เดือนผ่านมา รวม 2 วันติดกัน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากถึง -5.04 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -6.2%

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากนักลงทุนกลับมากังวลกับสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา หลังจากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเมษายนในสหรัฐอเมริกาตกต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ถึงแม้ว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาจะดำดิ่งมากถึง 5.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล

ราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,996.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ -10.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ -0.42%

ย้อนกลับไปในปี 2022 ผ่านไปเมื่อเดือนมีนาคม พบว่าราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน

สาเหตุจากถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลง 0.4% แต่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี พลิกกลับเพิ่มขึ้นจากที่เคยลดลงในระดับต่ำสุดในรอบเดือน นักลงทุนขายทำกำไรช่วงสั้นๆ หลังจากราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกัน

ทั้งนี้ โอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ CME Watch ที่ระดับ 0.25% พบว่ามีโอกาสถึง 75% ในการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคมนี้ ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านไปที่มีโอกาสมากถึง 89%