ดึงสายมู! ย่านราชประสงค์ ขึ้นแท่นแลนด์มาร์คสายมู ดึงนักท่องเที่ยวเชิงศรัทธาเข้าไทย

ข้อมูลจากผู้ประกอบวิสาหกิจในย่าน ราชประสงค์ พบว่า ในย่านราชประสงค์ แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์เทพต่าง ๆ เฉพาะพระพรหมเอราวัณที่เดียว มีผู้เดินทางเข้าไปสักการะมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี ส่งผลให้ย่านราชประสงค์ ขึ้นแท่นแลนด์มาร์คสายมู และเป็นแรงหนุนสำคัญให้ธุรกิจ ทั้งค้าปลีก ศูนย์การค้า โรงแรม และร้านอาหารคึกคักขึ้นต่อเนื่อง

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 อันดับแรก ที่เดินทางมาเยือนย่านราชประสงค์สูงสุด คือ จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และตะวันออกกลาง เดินทางเพื่อมาสักการะท้าวมหาพรหม

ส่วนในปี 67 นี้ จะมีโรงแรมเปิดใหม่เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งมีจำนวนกว่า 504 ห้องพัก รวมไปถึงการปรับปรุงของอาคารอมรินทร์ ที่มีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะยิ่งทำให้ย่านราชประสงค์ กลับมาคึกคักเท่ากับปี 62 ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวหมุนเวียนกว่า 600,000 คนต่อวัน เฉพาะช่วงพีค มีปริมาณนักท่องเที่ยวสัญจรไปมาบนสกายวอล์ก 100,000-150,000 คนต่อวัน จากปกติเฉลี่ย 80,000-100,000 คนต่อวัน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ย่านราชประสงค์กลับมาติดอันดับท็อปออฟมายด์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง

ปัจจุบันการท่องเที่ยวมูเตลู หรือการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา กำลังได้รับความสนใจ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 66 ที่ผ่านมา ททท. ได้บูมท่องเที่ยวสายมู โดยเปิด 12 เส้นทางท่องเที่ยวใหม่ เพื่อดันรายได้ท่องเที่ยวสายมูให้ทะลุ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 62 ที่ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การท่องเที่ยวเชิงแสวงบุญ สร้างรายได้สูงสุดถึง 10,800 ล้านบาท ขณะที่ข้อมูลของ Future Market Insight 2023 พบว่า การท่องเที่ยวเชิงศรัทธา มีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด คาดจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 10 ปี มาอยู่ที่ 40,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 76 จากปี 65 ที่ 13,700 ล้านเหรียญฯ

สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจมูเตลูจะถูกผลักดันให้เป็น Soft Power ที่หลายประเทศใช้ในการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และเผยแพร่วัฒนธรรม ในส่วนของไทยเองก็มีศักยภาพ เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติความเป็นมาเชิงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานอยู่จำนวนมาก ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่น โดยมีตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติสายมู 5 ประเทศหลัก ได้แก่ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง อินเดีย และตั้งแต่ 1 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป ไทยไฟเขียวจีนเข้าไทยไม่ต้องขอวีซ่าถาวร เชื่อว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้าไทยมากขึ้น

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles