นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญ ผลักดันให้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางของไทยสามารถส่งออกได้ตามมาตรฐาน ตามกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EU Deforestation-free Products Regulation: EUDR) และเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ส่งออกยางพาราไปสหภาพยุโรป ปี 2024 จะเติบโตขึ้นตามที่นักเศรษฐศาสตร์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่ายางพาราไทย มีโอกาสทางการค้าเพิ่มขึ้นในสหภาพยุโรป จากความพร้อมของไทยที่มีมากกว่าประเทศอื่นในการปฏิบัติตามกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR) ที่จะบังคับใช้เต็มรูปแบบในปลายปี 2024
โดยไทยเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมในสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 12 ของข้อมูลค่าส่งออกยางพาราทั้งหมดของไทย จึงเชื่อมั่นว่าไทยสามารถปฏิบัติตามกฎหมาย EUDR ได้ โดยเฉพาะตัวชี้วัดพื้นที่บุกรุกทำลายป่าที่ไทยมีจำนวนเพียง 0.4 ล้านไร่ น้อยกว่าประเทศอื่น โดยอียูมีความต้องการยางพาราจากไทยเพิ่มขึ้น เพื่อนำไปผลิตเป็นยางรถยนต์ จึงคาดว่าในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ใหม่ในอียูจะทยอยฟื้นตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 จากปีก่อน ทั้งนี้คาดการณ์ว่าการส่งออกยางพาราไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน จาก 419 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 448 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเติบโตทั้งปริมาณส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากปีก่อน
“นายกฯ สั่งการและกำชับทุกหน่วยงาน นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 ทำให้ยางพาราไทยมีโอกาสทางการค้าเพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ สะท้อนความพร้อมของไทยที่มีมากกว่าประเทศอื่น โดยนายกฯมีวิสัยทัศน์ และเป็นนักปฏิบัติ มองเห็นทุกโอกาสทางธุรกิจและนำมาผลักดันให้เป็นผลสำเร็จ และเชื่อมั่นเสมอว่ายางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ จะช่วยสร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าทางการค้า ยกระดับวิถีชีวิตชาวสวนยางไทย” นายชัย กล่าว