ตลท. มองนโยบายภาษี”ทรัมป์” มีผลต่อหุ้นทั่วโลก ยังมีโอกาสดึงเม็ดเงินเข้าได้ คาดเห็นความชัดเจน LTF 2 อีก 1-2 สัปดาห์นี้

ตลท. มองนโยบาย ภาษี "ทรัมป์" มีผลต่อหุ้นทั่วโลก ยังมีโอกาสดึงเม็ดเงินเข้าได้ คาดเห็นความชัดเจน LTF 2 อีก 1-2 สัปดาห์นี้

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในงาน INVESMENT FORUM 2025 33 years ONE AM ว่านโยบายภาษีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ นั้นมีผลต่อหุ้นทั่วโลก หากดูย้อนหลังในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ทรัมป์ 1.0 จนถึงวันนี้ มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนของจีนมายังเอเชียประมาณ 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แต่ไทยดึงดูดได้เพียง 10% มองว่ายังมีโอกาสในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติม

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยนั้นเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดประเทศหนึ่ง แต่ช่วงระยะสั้นๆ ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานไม่ได้ดี นอกจากนี้ในอดีต 10 ปีย้อนหลัง บริษัทจดทะเบียนในไทยมีการเติบโตเฉลี่ยเพียง 3% จึงต้องมีการร่วมมือกับในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อผลักดันและจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนทำแผนเพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเอง

ส่วนการออกกองทุนกระตุ้นตลาดหุ้นไทยนั้น นายอัสสเดชระบุว่าได้ปรึกษาหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อออกผลิตภัณฑ์ที่จะกระตุ้นตลาดทุนไทย ซึ่งปีที่ผ่านมามีกองทุน ThaiESG เม็ดเงินไหลเข้าราว 3-4 หมื่นล้านบาท แต่ส่วนใหญ่ลงทุนในกองทุนที่ลงทุนพันธบัตรค่อนข้างมาก ซึ่งจากการปรึกษาหารือจะผลักดันให้มีทางเลือกที่เป็น “LTF 2” ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ที่เน้นการสนับสนุนด้าน ESG และลงทุนในหุ้น ซึ่งตอนนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาและหวังว่าใน 1-2 สัปดาห์นี้จะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในระยะสั้น ประเด็นการสร้างความเชื่อมั่น Trust and Confidence เป็นเรื่องที่ ตลท. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกันทำงานกันค่อนข้างหนัก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนค่อนข้างมาก ต้องใช้เวลาในการดึงความเชื่อมั่นกลับมา

นอกจากนี้ ตลท. เร่งการทำความรวดเร็วในแผยแพร่ข้อมูลต่างๆ โดยดำเนินการที่คำนึงถึงการทำให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเท่าเทียม ล่าสุดที่มีการประกาศออกไปคือการให้โบรกเกอร์ทุกรายมีสิทธิเข้าไปวาง Server หรือระบบ ในตลาดหลักทรัพย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้ลูกค้าของโบรกสามารถเช้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับ Bond Connect เป็นแผนที่ ตลท.กำลังพัฒนาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยมีความตั้งใจจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้นักลงทุนโดยรวมเข้าถึงพันธบัตรรัฐบาล ซื้อขายได้สะดวก คล่องขึ้น โดยอาจเป็นในรูปแบบ tokenization หรือรูปแบบอื่น อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3 ปีนี้

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles