ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 6 พฤศจิกายน 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 3,989.91 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +6.02 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +0.2% ส่งผลราคาทองปิดขึ้นสองวันติดกันรวม +49.16 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.5%
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 3,992.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
สาเหตุจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับความไม่ชัดเจนของศาลฎีกาสหรัฐที่เสร็จสิ้นการไต่สวนเมื่อวานนี้ ด้วยการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ยังไม่มีคำตัดสินใดๆ ในขณะที่ตัวเลขยอดการจ้างพนักงานในภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนตุลาคมพบว่า เพิ่มสูงขึ้นเป็น 42,000 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 28,000 ตำแหน่ง ตัวเลขดังกล่าวย่อมส่งผลต่อการกดดันโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาหรือเฟสจะลดอัตราดอกเบี้ย
ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ออกมาเปิดเผยว่าไม่เห็นด้วยกับการที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ขณะที่ในสัปดาห์ผ่านไป นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวส่งสัญญาณชัดเจนว่า การลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนธันวาคม ไม่ใช่ข้อสรุปที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งยังห่างไกลจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์กัน
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟด หรือ ซีเอ็มอี วอทช์ ในการประชุมเดือนธันวาคม 2025 ปรากฎว่า มีโอกาสลดลงมาอยู่ที่ 72% จากเดิมที่ระดับ 63% สะท้อนถึงนักลงทุนมีความไม่มั่นใจสูงขึ้นที่เฟสจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงต่อเนื่องเป็นครั้งที่สามติดต่อกันและมีความเป็นไปได้ที่เฟสจะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าจะมีการปรับลดลงถึงสามครั้งในช่วงที่เหลือตั้งแต่ครึ่งปีหลังจนถึงสิ้นปีนี้
ภาวะรัฐบาลชัตดาวน์กินเวลามาเป็นนานถึง 37 วัน ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาวะไม่สามารถให้บริการต่อประชาชนได้ หรือ Goverment Shutdown ทำสถิติการชัตดาวน์ที่ยาวนานเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา