ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 70.09 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.1% ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนมีราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -5.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -8.17%
ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 72.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.14 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.59% เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายนผ่านมา เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี 8 เดือน หรือตั้งแต่ธันวาคม 2021 ที่ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ปิดต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และเป็นราคาปิดต่ำสุดในรอบดังกล่าวด้วย ก่อนหน้านี้ระหว่างวันที่ 3-6 กันยายนมีราคาปิดลดลง 4 วันติดกันรวม -6.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -8.57%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่ง เพิ่มขึ้น +1.4% และ +0.8% ตามลำดับ
สาเหตุจากผลกระทบจากพายุเฮอริเคนแฟรนซีน ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติลดหายลง 12% และ 16% ตามลำดับในบริเวณอ่าวเม็กซิโก ซึ่งก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบหดหายไปถึง 730,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 42% ของกำลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโก และน้ำมันกลั่นสำเร็จรูป
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 10 กันยายน 2567 โดยลดราคากลุ่มเบนซินลง 40 สตางค์/ลิตร และลดแก๊สโซฮอล์ลง -50 สตางค์/ลิตร นับเป็นการลดราคาน้ำมันครั้งแรกใน 5 วันผ่านมา และเป็นการลดราคาครั้งที่ 10 ต่อเนื่องนับตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม รวมลดลงสะสม -3.80 บาท/ลิตร ส่งผลให้เป็นราคาน้ำมันที่ถูกที่สุดในรอบ 7 เดือนครึ่ง หรือตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมผ่านมา